เป็นเกมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของวงการ ถึงความเป็นตำนานที่บุกเบิกแนวเกม Simulator มาตั้งแต่ยุค PS1 ซึ่งตัวเกมก็ยังคงแนวแน่ในการนำเสนอเนื้อหาจำลองการขับขี่ออกมาให้สมจริงมากที่สุด รวมไปทั้งการปรับแต่งรถ และรูปแบบการเล่นในสนามที่จำลองมาจากสถานที่ชื่อดังต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น จนกระทั่งในปี 2017 ตัวเกมก็ได้ออกภาค Sport โดยมันถือเป็นภาคแรกที่เน้นการทำขึ้นเพื่อแข่งขันกันในเวที E-sports โดยเฉพาะ ภายใต้การร่วมมืออย่างเป็นทางการของ FIA ( สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ ) ส่วนภาคใหม่ล่าสุดอย่าง Gran Turismo 7 ก็กำลังจะออกตามมาในปี 2021 นี้ด้วยเช่นเดียวกัน
2.Forza
ว่ากันว่ามันเป็นเกมที่ทำมาเพื่อแข่งขันกับ Gran Turismo โดยตรง แถมยังเป็นเกมแข่งรถสมจริงที่ทำมาสำหรับ Xbox ด้วยอีกต่างหาก ( Gran Turismo ทำมาสำหรับ Playstation ) ซึ่งหลาย ๆ อย่างของตัวเกมค่อนข้างมีความใกล้เคียงกัน ต่างกันตรงที่ Forza มีซี่รี่ย์แยกอย่าง Forza Horizon ที่เป็นภาคสำหรับให้ผู้เล่นได้ซิ่งกันนอกสนาม ภายใต้ลายละเอียดการขับขี่ที่ยังคงความสมจริงเหมือนอยู่เช่นเดิม
All New BMW S1000RR มี 2 โทนสีให้คนรัก ซุปเปอร์ไบค์ ได้เลือก นั่นคือ สีแดง (Racing Red) ราคา 1,020,000 บาท กับสีน้ำเงิน-ขาว (ight White /Racing Blue Metallic) ราคา 1,050,000 บาท
โครงสร้างตัวถังของรถซุปเปอร์ไบค์รุ่นนี้เรียกว่า Bridge Type frame ที่มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ จึงทำให้การขับขี่มีความสมูธและคล่องตัว อีกทั้งยังสามารถปรับตั้งค่าของสปริงได้ เพื่อให้รถทรงตัวได้อย่างแข็งแกร่ง มีความบาลานซ์อยู่เสมอและตอบสนองอย่างแม่นยำระหว่างการชับชี่ โดยเฉพาะในระยะทางไกลที่ต้องเดินทางต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ระบบการเคลื่อนที่และล้อรถมีกการกระจายน้ำหนักระหว่างล้อและความสามารถในการรับน้ำหนักที่ได้รับการพัฒนาในรุ่นล่าสุดด้วยระบบที่เรียกว่า Full Floater Pro ที่มีส่วนช่วยเสริมให้สมรรถนะช่วงล่างของล้อหลังมีการทำงานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม และส่งผลให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้นจากการควบคุมรถและการยึดเกาะถนนที่แม่นยำยิ่งในทุกสภาวะถนนและเส้นทางการขับขี่
นอกจากการพัฒนาด้านสมรรถนะเครื่องยนต์แล้ว BMW ก็ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อรองรับสรีระของผู้ขับขี่ด้วย เช่น จุดสัมผัสระหว่างผู้ขับและตัวรถ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดรับกับองศาระหว่างผู้ขับขี่ ระยะของมือจับทั้งสองข้าง เบาะนั่งและที่พักเท้า ให้มีความสมดุลและต้องอยู่ในท่วงท่าที่สบายที่สุดตลอดการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรูปแบบใดหรือเป็นระยะทางไกลแค่ไหนก็ตาม
Logitech ได้สร้างจอยพวงมาลัยออกมา แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไร ในชื่อรุ่น Logitech Wingman Formula โดยออกทั้งหมดสามสี เหลือง/แดง/ดำ และมีระบบ FFB แรงต้านและแรงตอบสนองแบบการสั่น แต่ทว่าในบางตัวนั้นยังใช้การเชื่อมต่อแบบ Serial Port(โบราณ)อยู่ ไม่มี USB Port (ช่วงนั้นเป็นยุคที่ USB กำลังเริ่มใช้กันยุคแรกๆ) สำหรับตัวพวงมาลัยหมุนได้ 200 องศา
Logitech Wingman Formula ซีรีส์
ซึ่งในปีถัดมาได้มีการพัฒนาต่อในรุ่น GP ซึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ USB ล้วนๆเลย แต่ผลิตออกมามีแต่สีเหลือง มีแป้นเหยียบที่หน้าตาดีขึ้น มี USB Port แท้ๆแบบในยุคใหม่แต่ยังคงหมุนได้ 200 องศาเช่นเดิม
ในปีต่อมาทำออกมาเฉพาะสีแดง มี FFB และ USB เสียบคอมเหมือนรุ่นปีที่แล้ว
ยุค Driving Force ซีรีส์
Logitech Driving Force หรือ GT Force (2001) คราวนี้ Logitech ได้รีแบรนด์จากซีรีส์ของ Wingman ไปสู่ Driving Force ด้วยการเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยสีฟ้า พร้อมกับตีตราโลโก้ ” Gran Turismo ” นับว่าเป็นพวงแรกที่ได้ Official ของเกมส์ Gran Turismo (ตอนนั้นภาค 3)(PS2) มี USB ระบบ FFB หมุน 200 องศา และยังมีเกียร์ Paddle Shift ติดหลังพวงมาด้วย (รุ่นนี้มีตัว Limited ที่เป็นกล่องแบบ Initial D ด้วย)
Logitech Momo (2002) คราวนี้เป็นทางของฝั่ง PC บ้าง เพื่อไม่ให้น้อยหน้าทางฝั่ง Playstation ทาง Logitech ได้ขอลิขสิทธิ์จากทาง MOMO มีการพัฒนาระบบ FFB ลงใน PC เช่นกัน และมีการเพิ่มเกียร์ Sequential ที่สามารถเลือกฝั่งในการติด (ซ้าย-ขวา) พัฒนาแป้นเหยียบขึ้นอีกระดับจาก Driving Force พร้อมทั้งปรับปรุงจุดยึดพวงด้านบนเป็นแบบยึด 3 จุดด้วย พวงมาลัยยังคงหมุนได้ 200 องศาเหมือนเดิม ขนาดเส้นรอบวงพวงมาลัย 10 นิ้ว
Logitech Speed Force Feedback (2002) คราวนี้ได้ออกพวงมาลัยมาสำหรับค่ายเกมส์ Nintendo อย่าง Gamecube ระบบภายในยังแบบ FFB ยุคเก่าเหมือนรุ่นพี่อย่าง Momo และ Driving Force
Logitech Nascar Racing (2004) อันนี้ออกแบบมาให้ใช้ได้ทั้ง 3 Platform ทั้ง PC/PS2 และ Xbox แต่ยังคงใช้ระบบ FFB เดิมๆจากรุ่นพี่อยู่เช่นกัน
Logitech Driving Force Pro (2004) ด้วยการมาของ Gran Turismo 4 ตัวพวงมาลัย Official ของ Logitech ก็ได้ออกมาในเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่ที่สามารถ(ปลดล๊อค)หมุนได้ 900 องศา จากเดิมที่พวงมาลัยที่หมุนได้เพียง 200 องศา นับว่าเป็นก้าวใหม่ของวงการจอยพวงมาลัยเลยทีเดียว (แต่เอาไปเล่นกับ GT4 มันไม่รองรับระบบ 900 องศา ต้องปรับโหมดไป 200 องศาเท่านั้น 555+) สำหรับเจ้าตัวนี้มียังคงใช้พวงมาลัยขนาด 10 นิ้ว มีเกียร์ Paddle Shift และมีเกียร์ Sequential ต้นแบบที่ยังใช้กันต่อมาถึงรุ่น DFGT เลย (รุ่นนี้มีตัวที่เป็นกล่องแบบ Sega Rally ด้วย)
Logitech Driving Force EX PS3(2006) ด้วยการเปิดตัวของ Playstation 3 ก็ได้ถึงเวลาลอยลำพวงมาลัยตัวเก่าซึ่งคราวนี้สามารถหมุนได้แค่ 200 องศาเท่านั้น(อ้าวว) กับพวงมาลัย ขนาด 10 นิ้วเท่าเดิม
Logitech Driving Force FX Xbox360 (2006) เหมือนตัวข้างบนทุกอย่าง ยกเว้นสามารถใช้กับ Xbox360 ได้
โดยในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 3 Platform ใหญ่ๆ ที่มีการพัฒนาเกมส์อย่างต่อเนื่องคือ PC / Playstation / Xbox ซึ่งในแต่ละ Platform ก็มีเกมส์ที่ Exclusive เด่นๆ เฉพาะ ฝั่ง ของตัวเองเช่นทาง PC จะมี iRacing, RaceRoom และ Playstation จะมี Grand Tourismo, Drive Club และทาง Xbox ก็จะเป็นเกมส์ Forza Motorsport, Forza Horizon และนอกจากนั้นยังมีอีกหลายเกมส์ที่ลงอยู่ใน Platform มากกว่าหนึ่งอย่างเช่น Project Cars, Assetto Corsa, Dirt Rally เป็นต้น
ซึ่งทุกวันนี้ระบบ FFB ได้รับการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องจนเริ่มมีจอยพวงมาลัยที่มีระบบ FFB ออกมาตัวแรกบน PC คือของ Microsoft ก็คือรุ่น Sidewinder Force Feedback Racing Wheel และจากนั้นผู้ผลิตอื่นๆก็ได้ผลิตจอยของตัวเองขึ้นมาอีกหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น Logitech, Thrustmaster, Fanatec