สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

Categories
บทความทั่วไป

Toyota Majesty รถตู้ตัวดังของ Toyota ที่ใครซื้อก็คุ้ม!

Toyota Majesty

รถตู้ของ Toyota นับว่าเป็นรถตู้อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่ได้รับความนิยม ตอบโจทย์การใช้งาน และหลาย ๆ รุ่นนำไปขายต่อเป็นมือ 2 ยังราคาไม่ตกอีกด้วย จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถตู้หลาย ๆ รุ่นของ Toyota เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง Toyota Majesty ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยรถรุ่นนี้เปิดตัวในไทยครั้งแรกในปี 2019 และได้รับความนิยมไม่แพ้ รถอเนกประสงค์ตัวดังอย่าง Toyota Alphard เลยก็ว่าได้

Toyota Majesty รถตู้ 11 ที่นั่ง ตกแต่งหรูหรา ภายในกว้างขวาง

Toyota Majesty

รถตู้Toyota Majesty เป็นรถตู้ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 2,755 ซีซี ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด Sequential Shift ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า 120 กิโลวัตต์ ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,200 รอบต่อนาที ถังน้ำมันจุได้ 70 ลิตร และที่สำคัญ รถตู้Toyota Majesty และมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 20 กิโลเมตร/ลิตรเท่านั้น

การตกแต่งภายในและภายนอก ก็จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละรุ่น โดย Toyota Majesty จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, Premium และ Grande โดย รถตู้Toyota Majesty Grande คือรุ่นท้อป ที่ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระจังหน้ากระจกมองข้าง มือจับประตูตกแต่งด้วยโครเมียม กันชนหน้า – หลัง สีเดียวกับตัวรถและตกแต่งด้วยโครเมียม ประตูสไลด์ซ้าย – ขวา ที่เปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ สามารถควบคุมการเปิด – ปิดได้จากคนขับ เป็นต้น

รถตู้Toyota Majesty ภายใน สำหรับรุ่น Grande ก็ตกแต่งด้วยวัสดุที่พรีเมียม เพื่อมอบความรู้สึกสบาย และผ่อนคลายให้กับผู้โดยสารทุกคน โดยเริ่มในส่วนของพวงมาลัยที่หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยลายไม้ สามารถปรับระดับสูง – ต่ำ เข้า – ออกได้ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12V 2 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์เสริม USB 7 ตำแหน่ง ไฟส่องบันไดข้าง พร้อมไฟ illumination ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร 3 ตำแหน่ง ไฟส่องแผนที่ และ ไฟอ่านหนังสือ 4 ตำแหน่ง เป็นต้น

นอกจากนี้อุปกรณ์ความบันเทิงก็ให้มาแบบครบครัน ทั้งเครื่องเล่น DVD / CD จอกลางระบบสัมผัส 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ลำโพง 12 ตำแหน่งรอบคัน ระบบนำทาง Navigator ระบบ T -Connect TELEMATICS ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 ตอน ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร และอย่างที่เราได้กล่าวไปว่ารถรุ่นนี้เป็นรถตู้ 11 ที่นั่ง ที่หุ้มด้วยหนังแท้และหนังสังเคราะห์ 

ที่นั่งคนขับสามารถปรับได้ 8 ทิศทาง และที่นั่งข้างคนขับสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ที่นั่งผู้โดยสารในห้องโดยสารแถวที่ 1 2 ที่นั่ง แบบ Captain Seat ปรับได้ 4 ทิศทาง ปรับเอนไฟฟ้า พร้อมที่รองขา และระบบนวดหลังไฟฟ้า แถวที่ 2 2 ที่นั่ง ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมที่วางแขนแบบพับได้ แถวที่ 3 4 ที่นั่ง พับแยกได้ 50:50 และที่นั่งตรงกลางระหว่างคนขับและที่นั่งข้างคนขับปี 1 ที่ จึงทำให้รถรุ่นที่มีที่นั่งสูงสุดถึง 11 ที่นั่ง 

Toyota Majesty

รถตู้Toyota Majesty 2023 ราคาเริ่มต้นที่ 1,709,000 บาท มี 2 สีให้เลือก

สำหรับใครที่ติดตามข่าวของ Toyota ก็จะทราบดีว่า Toyota majesty เลิกขาย ในไทยไปแล้วสำหรับ Toyota Thailand เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับที่นั่งที่ 11 ที่อยู่ระหว่างคนขับ กับที่นั่งข้างคนขับ เนื่องจากที่นั่งตำแหน่งนั้นไม่มีเข็มขัดนิรภัย ดังนั้นจึงทำให้ รถตู้Toyota Majesty จะมีภาษีนำเข้าที่สูงกว่า และจะทำให้ราคาขายของรถสูงตามไปด้วย แต่สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ปัจจุบัน Toyota BUZZ เป็นดีลเลอร์ของ Toyota ยังคงนำเข้ารถรุ่นนี้อยู่โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,709,000 บาท และมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ Black Mica และ White Pear  

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/

Categories
บทความทั่วไป

พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ว! Corolla Altis 2023 

Corolla Altis 2023

“Corolla Altis” คือหนึ่งในรถยนต์ของ Toyota ที่มีประวัติยาวนานถึง 40 กว่าปี และทาง Toyota ก็ยังไม่หยุดพัฒนา เพราะล่าสุด Corolla Altis 2023 โฉมใหม่เปิดตัวมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย พร้อมให้คุณจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ 

เปิดสเปค Corolla Altis 2023 ทั้ง 3 รุ่นย่อย ที่มาพร้อมระบบไฮบริด

รถCorolla Altis 2023 รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นรถที่เปิดตัวมาพร้อมรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Corolla Altis 1.6G, Corolla Altis 1.8 Sport และ Corolla Altis HEV Premium ซึ่งแต่ละรุ่นจะมาพร้อมสเปคที่น่าสนใจอย่างไรบ้างวันนี้เราได้นำข้อมูลมาฝากเพื่อน ๆ แล้ว

Corolla Altis 2023
  • Corolla Altis 1.6G

All NewCorolla Altis 2023 รุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6L 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-I ขนาด 1,598 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า 92 กิโลวัตต์ ที่ 6,050 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

  • Corolla Altis 1.8 Sport

Toyota รุ่นรองที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8L 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ขนาด 1798 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า 103 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift พร้อม Sport / Normal Mode

Corolla Altis 2023
  • Corolla Altis HEV Premium

รถยนต์Corolla Altis ไฮบริด และเป็นรุ่นท้อปของ Altis รุ่นปี 2023 โดยรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8L 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ VVT-i ขนาด 1798 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า 72 กิโลวัตต์ ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที ผสานกำลังกับมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ ที่ให้กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร และเมื่อทั้ง 2 ทำงานร่วมกันรถรุ่นนี้จะมีกำลังสูงสุดถึง 122 แรงม้า 90 กิโลวัตต์ อีกทั้งยังมาพร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ E-CVT และโหมดการขับขี่ EV Mode / Power / Normal /ECO Mode

รถเก๋งCorolla Altis 2023 ราคา เริ่มต้นที่ 8 แสนปลาย ๆ มี 4 สีให้เลือก

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของ รถCorolla Altis 2023 คุณสามารถจองเป็นเจ้าของได้แล้ว โดยราคาเริ่มต้นของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 894,000 บาท สำหรับ Toyota Altis 1.6 2023 979,000 สำหรับรุ่น 1.8 Sport และ 1,009,000 บาท สำหรับ HEV Premium โดยทั้งหมดจะมาพร้อมสีตัวรถให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ Attitude Black Mica, Metal Stream Metallic, Metal Stream Metallic และ Platinum White Pearl (เพิ่ม 10,000 บาท) 

นอกจากนี้สำหรับ รุ่นรองท้อปอย่าง 1.8 Sport และ HEV Premium ยังมาพร้อมจอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมยิ่งขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่อีกด้วย 

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
บทความทั่วไป

Nissan Almera รุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวพร้อม 4 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 5 แสนต้น ๆ 

Nissan Almera

Nissan Almera รถเก๋งรุ่นดังของ Nissan ที่ล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นปี 2023 ออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย Nissan Almera รุ่นใหม่นี้เปิดตัวมาพร้อม รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ 1.0L Turbo E CVT, 1.0L Turbo EL CVT, 1.0L Turbo V CVT และ 1.0L Turbo VL CVT อีกทั้งยังมีราคาเริ่มต้นเพียง 5 แสนต้น ๆ เท่านั้น 

Nissan Almera รุ่นปี 2023 เครื่องยนต์ 1.0L TURBO ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า

Nissan Almera

รถยนต์Nissan Almera รุ่นปี 2023 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0L Turbo DOHC ขนาด 999 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า (74 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 152 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ XTRONIC CVT with D – Step Logic (Hydraulic + Mechanical) 

Nissan Almera2023 ภายในถูกตกแต่งด้วยสีดำ คอนโซลตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์สีน้ำเงินเข้ม เดินตะเข็บด้วยด้าย ช่องแอร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และสีเปียโน แบล็ค คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุสีเปียโน แบล็คหัวเกียร์หุ้มด้วยหนังตกแต่งด้วยสีเงิน เบาะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีดำ เบาะคนขับสามารถปรับระดับสูงต่ำได้ พวงมาลัยสปอร์ต ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ NewNissan Almera 2023 ยังมาพร้อมระบบความบันเทิงที่ครบครันทั้ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V สูงสุด 2 ตำแหน่ง ระบบเครื่องเสียง หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay/Android Auto ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, USB, AUX-IN และบริการ NissanConnect Service เป็นต้น

นอกจากนี้สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า รถเก๋งNissan Almera V กับ VL ต่างกันอย่างไร อธิบายง่าย ๆ แบบนี้ว่า รถNissan Almera ทั้ง 4 รุ่นย่อยจะมาพร้อมเครื่องยนต์ชนิดเดียวกันคือ 1.0L Turbo และระบบความปลอดภัยมาตรฐานเดียวกัน แต่สิ่งที่รุ่น V และ VL แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนคืออุปกรณ์ตกแต่ง และ เทคโนโลยีที่นำมาใช้ ซึ่งหากเป็นรุ่น VL ที่จัดว่าเป็นรุ่นท้อปก็มีความครบครันพรีเมียมมากกว่า รวมไปถึงยังมีสีตัวรถให้เลือกเยอะกว่าอีกด้วย แต่ในส่วนของ NissanConnect Service ก็ให้มาแบบครบครันให้คุณใช้รถได้อุ่นใจเช่นกัน

รถยนต์Nissan Almera 2023 ราคา 549,000 สำหรับรุ่นเริ่มต้น  E CVT

มาถึงในส่วนข้อมูลเกี่ยวกับราคาของ รถเก๋งNissan Almera ทั้ง 4 รุ่นย่อยกันแล้ว โดย รถNissan Almera ราคา 549,000 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้นอย่าง E CVT โดยรุ่นนี้จะมีสีตัวรถให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ, เทา และ ขาว ส่วนรุ่น EL CVT จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 589,000 บาท และมี 5 สีให้เลือก ได้แก่ ดำ, เทา, ขาว, น้ำเงิน และ แดง รุ่น V CVT ราคาเริ่มต้น 659,000 บาท มี 6 สีให้เลือก ได้แก่ ดำ, ขาว, น้ำเงิน, แดง, เกรย์ สกาย เพิร์ล และ เทาเมทาลิค ส่วนรุ่นสุดท้ายคือ VL CVT ซึ่งเป็นรุ่นท้อปสุดที่มาพร้อมสีตัวรถให้เลือกสูงสุดถึง 9 สี ได้แก่ ดำ, ขาว, น้ำเงิน, แดง, เกรย์ สกาย เพิร์ล, เทาเมทาลิค และอีก 3 สีที่มาพร้อมหลังคาสีดำ แบล็ค สตาร์ ที่มาพร้อมราคาเริ่มต้น 699,000 บาท (Gray Sky Pearl สีพิเศษของรุ่นนี้)

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
บทความทั่วไป

Hyundai Stargazer รถยนต์ MPV รุ่นใหม่ แถมเข้าไทยหมาด ๆ 

Hyundai Stargazer

Hyundai Stargazer รถยนต์ MPV 6 – 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Hyundai ที่ก่อนหน้านี้เคยปรากฏตัวในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมา โดยรถรุ่นนี้เป็นรถครอบครัวที่มีตีไซน์เรียบง่าย ไม่หวือหวา ดังนั้นรถรุ่นนี้จึงเป็นรถที่ซื้อมาไว้ใช้งานอย่างแท้จริง

Hyundai Stargazer เปิดตัว 5 รุ่นย่อย ฟังก์ชันการใช้งานจัดเต็ม

รถยนต์Hyundai Stargazer เป็นรถยนต์สไตล์ MPV ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง โดย ฮุนได เปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ทั้งหมด 5 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ Trend, Style, Smart 7, Smart 6 และ Smart 6 with Black Roof ซึ่งทั้งหมดจะใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกันคือ เครื่องยนต์ Smartstream 1.5 MPI DOHC D-CVVT 4 สููบแถวเรีียง 16 วาล์ว 1,497 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบส่งกำลังแบบ Intelligent Variable Transmission (IVT) ซึ่งเป็นชุดเกียร์ระบบใหม่ของฮุนได

รถยนต์Hyundai stargazer 2023 มีขนาดของตัวรถอยู่ที่ 4,460 x 1,780 x 1,695 มม. (ความยาว x ความกว้าง x ความสูง) ความยาวฐานล้อ 2,780 มม. และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่จนเกินไป ดังนั้นจึงเหมาะกับทั้งคนเมืองที่มีที่จอดจำกัด และทุกคนที่กำลังอยากได้รถครอบครัวไว้ใช้งานเป็นอย่างยิ่ง 

นอกจากนี้สำหรับภายในของ stargazer ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มในเรื่องของฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ โต๊ะวางของหลังเบาะข้างคนขับ (แต่แอบรู้สึกว่าควรให้มาทั้ง 2 ฝั่ง) ไฟเรืองแสล้อมรอบห้องโดยสาร ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ช่องจ่ายไฟสำรองแบบ USB Wireless Charger ระบบล็อคประตููอัตโนมัติตามความเร็วรถ เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง กล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด ระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS จุดติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก (ISOFIX) และถุงลมนิรภัย 6 จุดสำหรับรุ่นท้อป เป็นต้น อีกทั้งเบาะยังสามารถพับเก็บได้หลายรูปแบบจึงทำให้คุณสามารถบรรทุกสัมภาระได้เยอะจุใจอย่างแน่นอน

รถยนต์Hyundai stargazer ราคา เริ่มต้น 769,000 บาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของรถครอบครัวรุ่นใหม่ล่าสุดจากฮุนไดรุ่นนี้ ปัจจุบัน รถยนต์Hyundai Stargazer เข้าไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยราคาของรถแต่ละรุ่นย่อยมีดังนี้ 

  • Stargazer Trend (รุ่นเริ่มต้น) ราคาเริ่มต้น 769,000 บาท
  • Stargazer Style ราคาเริ่มต้น 829,000 บาท
  • Stargazer Smart 7 ราคาเริ่มต้น 869,000 บาท
  • Stargazer Smart 6 ราคาเริ่มต้น 889,000 บาท
  • Stargazer Smart 6 with Black Roof (หลังคาดำ) ราคาเริ่มต้น 909,000 บาท

โดยรุ่น Smart 6 with Black Roof มีสีตัวรถให้เลือก 2 สี ได้แก่ Magnetic Silver Metallic และ Creamy White Pearl และสำหรับรุ่นอื่น ๆ มีสีตัวรถให้เลือก 4 สีได้แก่ Titan Gray Metallic, Magnetic Silver Metallic, Creamy White Pearl และ Midnight Black Pearl อีกทั้งทุกรุ่นยังมาพร้อมโหมดขับขี่ถึง 4 โหมด ได้แก่ Eco, Normal, Sport และ Smart ที่ให้คุณเลือกใช้โหมดให้เข้ากับรูปแบบการขับขี่ของคุณ

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
บทความทั่วไป

Mazda 2 Hatchback 2022 รถดีไซน์เก๋ถูกใจคนรุ่นใหม่

Mazda 2 Hatchback 2022 รถรุ่นใหม่ มาสด้า2 5ประตู 2022 ดีไซน์โมเดิร์นเครื่องยนต์แบบใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้

Mazda 2 Hatchback 2022 ออกรุ่นใหม่แล้ว

Mazda 2 Hatchback 2022

รถMazda 2 Hatchback 2022 เป็นอีกหนึ่ง รถยนต์ขนาดเล็ก จากทางฝั่งมาสด้าที่ขนออกมาจากอู่ใหญ่กันสด ๆ ร้อน ๆ ในปี 2022 ที่ผ่านมาแต่ยังมีกระแสอย่างต่อเนื่องข้ามปีมาเลยทีเดียว ด้วยความที่เขาเป็นรถ 5 ประตู 5 ที่นั่งแบบรถสมัยใหม่ซึ่งอยู่ในกลุ่มของอีโคคาร์ ดีไซน์ด้านนอกจึงมีความโมเดิร์นและดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวดีไซน์พัฒนามาจากตัวดั้งเดิมสมัยปี 2014 ที่ก็ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน แต่ในตัวใหม่นี้จะปรับเปลี่ยนชุดไฟหน้า กระจังหน้า รวมถึงกันชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังใหม่หมด จะได้เป็นไฟ LED โคมโปรเจกเตอร์และระบบอัตโนมัติ มีกระจกลดเสียงรบกวนรวมถึงสปอยเลอร์หลังด้วย

รถMazda 2 Hatchback 2022 เครื่องยนต์เลือกได้

รถMazda 2 Hatchback 2022 จะมีตัวถังขนาดความยาว 4,065 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,495 มม. ซึ่งก็ถือว่าเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป ส่วนดีไซน์Mazda รุ่นนี้ภายในจะมีความเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ใครที่ชื่นชอบความมินิมอลจะต้องโดนใจแน่นอน จุดเด่นจะเป็นเบาะไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสที่รองรับได้ทั้งระบบปฏิบัติการของ IOS , CarPlay และ Android โดยมีขนาดถึง 7 นิ้วด้วยกัน ตัวเบาะหลังสามารถแยกพับได้แบบ 60:40 โดยที่แผ่นปิดสัมภาระทางด้านหลังจะไม่มีอยู่ในรุ่นย่อยล่างสุด ในส่วนของเครื่องยนต์จะมี 2 แบบคือ แบบเบนซินโดยมี 4 สูบ 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตรต่อวินาที ส่วนแบบดีเซลจะมี 4 สูบ 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที และอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 26.3 กิโลเมตรต่อวินาที

รถMazda 2 Hatchback 2022 หลายรุ่นย่อยและหลากสีสัน

รถMazda 2 Hatchback 2022 ได้ติดตั้งถุงลมนิรภัยไว้ให้ทุกรุ่นย่อย ยังมีเข็มขัดนิรภัย 3 จุดทุกที่นั่ง มีระบบป้องกันล้อล็อก ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน รวมไปถึงจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ซึ่งรุ่นย่อยทั้งหมดของรถรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 5 รุ่นย่อยได้แก่ รุ่น 1.3 E Sports , รุ่น 1.3 C Sports , รุ่น 1.3 S Sports Leather , รุ่น 1.3 Carbon Edition Sports , รุ่น 1.3 SP Sport และ รุ่น XDL Sport (ดีเซล) โดยจะมี รถMazda 2 Hatchback สี ให้เลือกอยู่ทั้งหมด 6 สีคือ สีแดง Soul Red Crystal , สีเบจ Platinum Quartz , สีเทา Machine Gray , สีเทา Ceramic Metallic , สีเทา Polymetal Gray และ สีเงิน Sonic Silver สามารถจับจองกันได้แล้ววันนี้

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
บทความทั่วไป

BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

BMW XM

BMW XM คือรถยนต์ SUV ระบบ Plug-in Hybrid รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถึงแม้ว่ารถรุ่นนี้จะยังไม่ใช่รถ SUV ที่ใหญ่ที่สุดของ BMW แต่ด้วยดีไซน์ภายนอกก็ทำให้รถรุ่นนี้มีภาพลักษณ์ที่ดูดุดัน เท่ คันใหญ่ สปอร์ต และดูล้ำสมัยไม่น้อยเลยทีเดียว และสำหรับใครที่กำลังรอข้อมูลเกี่ยวกับสเปคของรถรุ่นนี้จากเว็บไซต์ของเราอยู่วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับรถรุ่นนี้มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว

เปิดสเปคของ BMW XM รถยนต์ Plug-in Hybrid 653 แรงม้า

BMW XM

สำหรับBMW XM เป็นรถยนต์ SUV ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา และสำหรับปี 2023 นี้รถยนต์รุ่นนี้ได้เปิดตัวและนำเข้าในไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยBMW XM 2023 เป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid ที่ผสาน 2 ขุมพลังงานจนทำให้รถยนต์รุ่นนี้กลายเป็น SUV พันธุ์ดุที่มาพร้อม เครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ เทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo 4,395 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 489 แรงม้า (360 กิโลวัตต์) ที่ 5,400 – 7,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 5,000 รอบต่อนาที

มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า (145 กิโลวัตต์) แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตันเมตร ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้ามาตรฐาน NEDC 98 กิโลเมตร ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 29.5 kWh และเมื่อเครื่องยนต์ V8 และมอเตอร์ไฟฟ้าของ NewBMW XM ทำงานร่วมกันรถรุ่นนี้จะมีกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 653 แรงม้า (480 กิโลวัตต์) แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ M Steptronic พร้อม Drivelogic ขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive และด้วยขุมพลังระดับนี้จึงทำให้ 2023BMW XM มีความเร็วสูงสุด 270 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที และมีอัตราการใช้ไฟฟ้ามาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 28.6 kWh/100 กิโลเมตร 

รถยนต์BMW XM 2023 ราคา เริ่มต้นที่ 14,899,000 บาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ว

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า รถยนต์BMW XM เปิดตัว ในไทยไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย รถยนต์BMW XM ราคาในไทยเริ่มต้นที่ 14,899,000 บาท อีกทั้งยังมีสีตัวรถให้เลือกถึง 7 สีได้แก่ Black Sapphire metallic, Mineral White metallic, Cape York Green metallic, BMW Individual Dravit Grey metallic, M Carbon Black metallic, M Marina Bay Blue metallic และ M Toronto Red metallic อีกทั้งยังจะมีการตกแต่งด้วยสี Night Gold ที่ให้ความรู้สึกทั้งหรูหรา และล้ำสมัย 

นอกจากนี้ภายในของตัวรถยังถูกตกแต่งด้วยดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกเดียวกันกับการตกแต่งภายนอก ไม่ว่าจะเป็น แผงบุหลังคาเรืองแสง, ที่นั่งสไตล์ M Lounge และคอนโซลหน้าที่หุ้มด้วยหนังสไตล์วินเทจ ที่มีเฉพาะในรถรุ่นนี้เท่านั้น และที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic sounds electric ที่ช่วยสร้างเสียงในการขับขี่ได้อย่างมีพลังแม้อยู่โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า ดังนั้นรถรุ่นนี้จึงมีความดุดันอย่างสมบูรณ์แบบ

อ่านบทความอื่น ๆ >> Mazda MX-5 รถสปอร์ต Mazda ที่กาลเวลาทำอะไรเขาไม่ได้

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023