สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

Categories
บทความทั่วไป

Horizon Chase เกมแข่งรถคอนโซล บุกแพลตฟอร์มมือถือเรียบร้อย 

Horizon Chase

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเล่นเกมHorizon Chase Turbo แต่ไม่มีอุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับเล่นเกมนี้ เนื่องจากตัวเกมนี้เป็นเกมสำหรับเกมคอนโซล วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับเกม Horizon Chase ซึ่งเป็นซีรีส์เกมเดียวกัน แต่ถูกนำมาอยู่ในแพลตฟอร์มมือถือ ซึ่งเกมนี้จะน่าเล่น หรือ น่าสนใจเหมือนกับตัวเกมคอนโซล ซึ่งเป็นตัวเกมหลักหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูพร้อมกัน

รีวิว Horizon Chase เกมแข่งรถมือถือยุค 90s สุดมัน

จะเรียกว่าเป็นเกมที่ถูกถอดแบบจากเกมHorizon Chase Turbo มาเลยก็ว่าได้ โดยรูปแบบของเกมในรูปแบบของเกมออนไลน์ ให้คุณสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกันเพื่อน ๆ จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งจะแตกต่างกับเกมคอนโซลที่ผู้เล่นจะสามารถเล่นแบบแบ่งหน้าจอเพื่อแข่งขันกับเพื่อนของเราได้ด้วย ซึ่งบรรยากาศภายในเกม และภาพของเกมจะเป็นภาพแบบ 16 บิต ที่ผสมผสานเข้ากับกลิ่นอายของภาพกราฟิกยุคใหม่ ทำให้ผู้เล่น เกมแข่งรถมือถือ เกมนี้รู้สึกเหมือนกับเล่นเกมในตู้เกมของยุค 80s – 90s 

นอกจากนี้คุณยังจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปแข่งรถในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ด้วย Map ของเกมที่ออกแบบมาให้มีสนามแข่งรถในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก และที่สำคัญคุณยังจะได้สัมผัสบรรยากาศ ชมพระอาทิตย์ตก เผชิญกับฝน หิมะ ขี้เถ้าภูเขาไฟ และแม้แต่พายุทรายที่รุนแรง ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน พร้อมโปสการ์ดที่สวยงามจากทั่วโลกที่จะปรากฏขึ้นในแต่ละแทร็กที่คุณเข้าร่วมการแข่งขัน และที่สำคัญเกมนี้ยังได้รับคำชื่นชมจากผู้ที่ดาวน์โหลดเกมนี้มาเล่นบนมือถือเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของธีมเกมที่ทำให้เข้าถึงกลิ่นอายของยุค 90s เป็นอย่างดี 

Horizon Chase

เกมHorizon Chase for Phone ดาวน์โหลดได้ง่าย ๆ ทั้ง iOS และ Android 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเล่นเกมHorizon Chase บนมือถือ ทุกคนสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android แต่พิเศษสุดสำหรับใครที่อยากเล่นบน Apple Arcade ก็สามารถกดรับเกมนี้บนอุปกรณ์ Apple ได้เช่นกัน โดยจะเป็นตัวเกมHorizon Chase 2 ที่คุณจะได้พบแผนที่ที่มีความหลากหลายภายในเกม ซึ่งประเทศไทยคือหนึ่งในนั้น นอกจากนี้ภาพภายในเกมในส่วนของการทำฉากหลังจะเป็นแบบ 3D ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจ ระหว่างการแข่งขันที่ท้าทาย นอกจากนี้ตัวเกมอัปเดตใหม่ยังเปิดแผ่นที่ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งเป็นแผนที่ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเล่นเกมHorizon Chase 2 iOS ก็สามารถดาวน์โหลดบน Apple Store ได้แล้ววันนี้

อ่านข่าวสารวงการรถอื่น ๆ >> Circuit de la Sarthe สนามแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมงอันโด่งดัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

Circuit de la Sarthe สนามแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมงอันโด่งดัง

สนามแข่ง Le Mans

Circuit de la Sarthe หรือบางคนอาจจะรู้จักในนาม สนามแข่ง Le Mans ซึ่งเป็นรายการแข่งรถที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งสนามแห่งนี้ก็นับว่าเป็นสนามที่อยู่คู่กับการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1923 โดยสนามแห่งนี้ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยสูงสุด และที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงของสนามแห่งนี้ก็นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้การแข่งขัน 24 hours of Le Mans เลยก็ว่าได้

ประวัติ Circuit de la Sarthe สนามแข่ง Le Mans ที่อยู่คู่กีฬาแข่งรถมามากกว่า 100 ปี 

Circuit de la Sarthe ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1906 สำหรับการแข่งขัน first grand Prix de IACF – Grand Prix de France โดยจะมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 103.18 กิโลเมตร และต่อมาในปี 1911 – 1913 สนามแห่งนี้ก็ได้มีการพัฒนาใหม่ และย้ายที่ตั้งของสนามจึงทำให้สนามแห่งนี้มีระยะทางที่สั้นลงเหลือเพียง 33.557 กิโลเมตร และยังคงใช้สำหรับใช้ในการแข่งขัน Grand Prix de France อีกเช่นเคย จนปีกระทั่งปี 1921 ก็ได้มีการสร้างส่วนเสริมของสนามเพิ่มขึ้นมาอีก 17.262 กิโลเมตร แต่ต่อมาในระหว่างปี 1921 – 1928 สนามแห่งนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง 

สนามแข่ง Le Mans

ซึ่งระหว่างนั้นในปี 1923 การแข่งขันระดับโลกก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกันนั่นคือ 24 hours of le mans และนี่ก็นับว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้หลายคนรู้จักสนามแห่งนี้ในนามสนามแข่ง Le Mans ซึ่งในปัจจุบันสนามแห่งนี้มีชื่อเต็มว่า Circuit des 24 Heures du Mans โดยตั้งอยู่ใน เมือง Le Mans, Sarthe ประเทศฝรั่งเศส เป็นสนามแข่งรถกึ่งถาวร เนื่องจากสนามแข่งแห่งนี้จะมีถนนสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งของสนามแข่ง และปัจจุบันมีความยาวอยู่ที่ 13.626 กม. (8.467 ไมล์) และแน่นอนว่าด้วยระยะทางที่ยาวเช่นนี้จึงทำให้เป็นหนึ่งในวงจรที่ยาวที่สุดในโลก 

สนามแข่ง Le Mans

สนามเลอมังส์ สนามแข่ง Grand Prix ครั้งที่ 1,000 และเตรียมฉลอง 100 ปี 24 Heures du Mans

สำหรับปี 2023 นี้ นับว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของ Circuit de la Sarthe สนามแข่งเลอมังส์ แห่งนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากในการแข่งขัน MotoGP 2023 ได้เลือกให้ Bugatti Circuit ซึ่งเป็นสนามที่เป็นส่วนหนึ่งของสนามแข่ง Le Mans เป็นสนามแข่งครั้งที่ 1,000 ของการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกอย่างรายการ MotoGP และที่สำคัญสำหรับการแข่งขัน 24 Heures du Mans หรือ 24 hours of Le Mans ปี 2023 นี้ก็นับว่าเป็นปีที่ 100 ของการแข่งขันนี้ด้วย และแน่นอนว่านี่นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของสนามแห่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในสนามเก่าแก่ที่อยู่คู่กับกีฬาแข่งรถมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญสนามแห่งนี้ยังสร้างนักแข่งระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน

อ่านข่าวสารวงการรถอื่น ๆ >> 2 สนามแข่ง MotoGP 2023 ที่ถูกเลือกให้เป็นสนามทดสอบในการแข่งขัน

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

2 สนามแข่ง MotoGP 2023 ที่ถูกเลือกให้เป็นสนามทดสอบในการแข่งขัน

สนามแข่ง MotoGP 2023

สิ้นสุดกันเป็นไปที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขัน MotoGP 2022 และเป็นที่ทราบกันดีว่า ฟรันเชสโก บัญญายา (Francesco Bagnaia) นักแข่งรถชาวอิตาลีวัย 25 ปี เป็นผู้คว้าแชมป์จากฤดูกาลนี้ไปได้ และหลังการแข่งขันในปี 2022 นี้สิ้นสุดลง การแข่งขันก็จะก้าวเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ คือฤดูกาล 2023 ซึ่ง 2 สนามแข่ง MotoGP 2023 ที่ถูกเลือกให้เป็นสนามทดสอบก่อนการแข่งขันจริง คือ Sepang International Circuit ประเทศมาเลเซียและ Autódromo Internacional do Algarve ประเทศโปรตุเกส ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เรานำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นมาฝากทุกคนแล้ว

รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบรถบน สนามแข่ง MotoGP 2023 ทั้ง 2 แห่ง

สำหรับ แข่งรถ MotoGP ก่อนการเริ่มฤดูกาลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ผู้จัดการแข่งขันจะต้องจัดตารางสำหรับ Test หรือ ทดสอบรถหรือระบบต่าง ๆ ให้กับผู้แข่งขันในแต่ละทีม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมี 2 สนามแข่ง ที่จะถูกคัดเลือกสำหรับการทดสอบ และสำหรับ 2 สนามแข่ง MotoGP 2023 ที่ถูกเลือกใช้สำหรับการทดสอบคือ Sepang International Circuit ประเทศมาเลเซีย และ Autódromo Internacional do Algarve หรือ Portimão Circuit ประเทศโปรตุเกส

 โดย Sepang Shakedown MotoGP Official Test จะเกิดขึ้นในวันที่ 05 กุมภาพันธ์ – 07 กุมภาพันธ์ 2023 และในส่วนของ Sepang MotoGP Official Test จะเกิดขึ้น 10 กุมภาพันธ์ – 12 กุมภาพันธ์ 2023 แต่ในส่วนของ สนามแข่งรถ MotoGP Autódromo Internacional do Algarve ประเทศโปรตุเกส สำหรับ Portimao MotoGP Official Test จะเกิดขึ้น 11 มีนาคม – 13 มีนาคม 2023 และในวัน 17 มีนาคม – 20 มีนาคม 2023 จะเป็นการทดสอบสำหรับ Moto2 และ Moto3 และสำหรับ การแข่งขัน MotoGP 2023 สนามแรกจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม – 27 มีนาคม ที่สนามประเทศโปรตุเกส แห่งนี้เช่นเดียวกัน

สเปค และข้อมูลที่น่าสนใจของสนามแข่งทั้ง 2 สนาม ที่ใช้ทั้งทดสอบและแข่งขันจริง

สนามแข่ง MotoGP 2023 ทั้ง 2 สนามนอกจากจะใช้สำหรับการ Test แล้ว ยังถูกใช้สำหรับการแข่งขันจริงอีกด้วย โดย สนามแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ทั้ง 2 สนามที่เรานำมาพูดคุยกันในวันนี้ แน่นอนว่าต้องมีสเปคของสนามที่เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานของ FIM หรือ สหพันธ์จักรยานยนต์ระหว่างประเทศ ซึ่งสเปคของสนามแข่ง MotoGP ทั้ง 2 สนามมีดังนี้

สนามแข่ง MotoGP
  • Sepang International Circuit ประเทศมาเลเซีย

ความยาวรวมของสนามแห่งนี้อยู่ที่ 5.54 กม. / 3.44 ไมล์ ความกว้างของแทร็ก 16 ม. / 52.49 ฟุต และ ทางตรงที่ยาวที่สุด 920 ม. / 3018.37 ฟุต โดยสนามแห่งนี้เป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งรอบ ๆ ของสนามเป็นที่ตั้งของโรงแรม ศูนย์การค้า สนามกอล์ฟ สนามบิน และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาอื่น ๆ มีราคาก่อสร้างประมาณ 50 ล้านปอนด์ และสร้างขึ้นในเวลาเพียง 14 เดือน และใช้ในการจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรกในเดือนเมษายน ค.ศ. 1999 

สนามแข่ง MotoGP
  • Autódromo Internacional do Algarve ประเทศโปรตุเกส

สนามแห่งนี้มีความยาวอยู่ที่ ความยาวรวม 4.59 กม. / 2.85 ไมล์ ความกว้างของแทร็ก 18 ม. / 59.06 ฟุต ทางตรงที่ยาวที่สุด 970 ม. / 3182.41 ฟุต โดยสนามแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Algarve ของโปรตุเกส หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “Portimão” ซึ่งเปิดทำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2008 เพื่อใช้ในการแข่งขัน WorldSBK (ซูเปอร์ไบค์เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ) นอกจากนี้ Algarve Motorsports Park เป็นคอมเพล็กซ์ล้ำสมัยซึ่งมีทั้งสนามแข่งรถที่สวยงาม สนามโกคาร์ท สวนสาธารณะแบบออฟโรด โรงแรม อพาร์ตเมนต์คอมเพล็กซ์ สวนเทคโนโลยี และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เป็นต้น 

อ่านข่าวสารรถอื่น ๆ >> Assoluto Racing: Real Grip Racing & Drifting เกมรถแข่งแห่งปี

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Drifting เกมรถแข่งแห่งปี

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Drifting สุดยอดแห่ง เกมแข่งรถ มือถือ คุณภาพสูงเสียดฟ้าเทียบเท่าเกมดังระดับท็อป

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Drifting ประสบการณ์ใหม่ของเกมรถ

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Drifting

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Driftingเป็น เกมแข่งรถ หน้าใหม่ที่ออกมาได้ไม่นานนักแต่ก็ได้รับกระแสและเสียงตอบรับจากเกมเมอร์ทั้งหลายแนวมาอย่างล้นหลามอย่างมาก นี่เป็นสัญญาณว่าคอเกมส่วนใหญ่กำลังมองหาเกมใหม่ ๆ ที่มอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่กว่า ดีกว่า และน่าประทับใจกว่าให้กับพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าเกมนี้ก็สามารถพิชิตใจใครหลาย ๆ คนได้ด้วยคุณสมบัติทั้งสามที่ได้บอกไป ทำให้ยอดดาวน์โหลดพุ่งสูงสุดแซงเกมดัง ๆ ไปเพียบและยังไม่มีทีท่าว่าเกมนี้จะได้ความนิยมลดลงด้วยซ้ำ กลายเป็นเกมดังติดเทรนด์ที่ทุกคนต้องลองเล่นจริง ๆ 

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Driftingแข่งรถกับคนทั่วทั้งโลกง่าย ๆ 

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Drifting

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Driftingมีระบบการเล่นที่เหมือน ๆ กับเกมรถแข่งที่ทุกคนคุ้นเคยดี ไม่ว่าจะทั้งรูปแบบของ Race ที่เน้นการแข่งด้วยความเร็วเพื่อพิชิตรอบให้ได้ชัยชนะ หรือรูปแบบของ Drift ที่โชว์ศักยภาพในการควบคุมรถของผู้เล่น ซึ่งมาพร้อมกับ โหมดออนไลน์ ที่จะพาผู้เล่นทั่วโลกไปมาเจอกันและวัดความสามารถได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเกมนี้เน้นไปที่โหมดการเล่นกับผู้เล่นทั่วโลกเป็นหลัก จึงอาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเล่นคนเดียวหรือชอบเล่นโหมดเนื้อเรื่อง แต่ก็อยากให้ได้ลองเล่นกันดูก่อนเพราะฟังก์ชันการตกแต่งรถหรือระบบอื่น ๆ ที่ซ่อนไว้มีหลากหลายและสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดีมาก ๆ

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Driftingกราฟิสวยงามเหมือนจริงมาก

Assoluto Racing: Real Grip Racing & Driftingยังมาพร้อมกับ ระบบ Engine แบบใหม่ที่สมจริงมาก ๆ แม้ว่าคุณจะเล่นเกมนี้บนแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟน แต่ก็สามารถมีคุณภาพของเกมที่เทียบชั้นกับเกมระดับท็อปอย่าง Need for Speed หรือ Forza Horizon ได้อย่างสบาย ๆ จนเป็นที่ยอมรับของแฟนเกมรถแข่งทั่วทั้งโลกเลยด้วย นี่จึงเป็นอีกจุดที่คนยุคใหม่มักเล่นเกมผ่านโทรศัพท์และได้รับประสบการณ์ที่เหนือคาดหมายมาก ๆ จนติดงอมแงมและอยากจะเล่นบนแพลตฟอร์มนี้ต่อไปด้วย สำหรับการรีวิวเกมดี ๆ เช่นนี้ก็หวังว่าทุกคนจะหามาจับจองเพื่อทดสอบสปิริตนักแข่งเพื่อเจอกับคนทั่วโลกและเอาชนะคว้าแชมป์เป็นที่ 1 กัน

อ่านข่าวสารวงการรถอื่น ๆ >> Lambretta V200 Special 2023 ที่สุดของรถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

Lambretta V200 Special 2023 ที่สุดของรถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี

Lambretta V200 Special 2023

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบรถสกู๊ตเตอร์ และกำลังตามหารถที่มีดีไซน์ตรงใจ วันนี้เราอยากนำเสนอ Lambretta V200 Special 2023 ให้กับทุกคนต้องการสร้างสีสันให้กับชีวิตผ่านรถคู่ใน เพราะนอกจากดีไซน์ของรถรุ่นนี้จะมีความกะทัดรัด และดูร่วมสมัยแล้ว สีสันของ Lambretta V200Special 2023 รุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าฉูดฉาดจัดเต็มที่สุด และที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังจะดึงเอาดีไซน์ของผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถออกมาได้ชัดเจนที่สุด

Lambretta V200 Special 2023 รถสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์ขนาด 168.9 ซีซี

Lambretta V200 Special 2023

Lambretta V200 Special2023 เป็นรถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาด 168.9 ซีซี ระบบหัวฉีด (EFI) ระบบส่องสว่างแบบ FULL LED ที่ไฟหน้า และไฟท้ายจะแฝงไว้ด้วยโลโก้ Lambretta ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่มาพร้อม Combi Brake System (CBS) ที่มีความสามารถในการกระจายแรงเบรก ช่วยการเบรกของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ในส่วนของการดีไซน์ V200 Special มีการออกแบบให้มีดีไซน์ที่ร่วมสมัย กะทัดรัด และไม่ดูใหญ่เทอะทะเกินไป (เหมาะสำหรับคนตัวเล็ก) และที่สำคัญคือการออกแบบรถรุ่นนี้ยังถูกแฝงไปด้วยความเป็น Lambretta ในทุก ๆ อณู ดังนั้นจึงทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่รู้จักและสะดุดตา เพราะนอกจากดีไซน์ดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แล้ว โลโก้ของ Lambretta ยังจะปรากฏอยู่ในทุก ๆ จุดของรถด้วยดีไซน์ที่ลงตัว ซึ่งจะทำให้เราไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป และในส่วนของราคา Lambretta v200 special2023 ราคา เริ่มต้นที่ 107,000 บาท หรือดาวน์เริ่มต้นที่ 5,000 บาทเท่านั้น และมีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Grotta Blue, Siciliano Yellow, Perla White และ Intenso Black ซึ่งแต่ละสีจะถูกจับคู่กับเบาะหนังที่จะมีสีเข้าคู่กันสีของตัวรถที่แตกต่างกันออกไป 

Lambretta ในตระกูล V มีให้เลือกอีก 6 รุ่น พร้อมสัมผัสของจริงได้จากโชว์รูมทั่วประเทศ

สำหรับซีรีส์ในตระกูล V จาก Lambretta นั้น มีรุ่นอื่น ๆ นอกเหนือจาก Lambretta V200 Special2023 อีก 6 รุ่น ได้แก่ V200 NEW, Lambretta V200 GP, V200 STYPE, V200 STYPE, V200 SPECIAL และ V125 SPECIAL ที่เป็นรุ่นที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 94,500 บาท และสำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของรถรุ่นต่าง ๆ จากแบรนด์ แลมเบรตต้า ทุกคนก็สามารถเข้าไปชมรถของจริง หรือ สอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากเซลล์ได้จากโชว์รูมของ Lambretta ที่ปัจจุบัน มีมากกว่า 30 กว่าสาขาทั่วประเทศ หรือ สามารถเข้าไปคำนวนค่าตัวน้อง ๆ แต่ละคัน หรือจองรถได้ง่าย ๆ บนเว็บไซต์ https://lambretta.co.th/ ได้แล้ววันนี้

อ่านข่าวสารวงการรถอื่น ๆ >> BMW CE 04 รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ดีไซน์เท่ไม่เหมือนใคร

Categories
บทความทั่วไป

BMW CE 04 รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ดีไซน์เท่ไม่เหมือนใคร

BMW CE 04

BMW CE 04 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ BMW ที่มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยรถรุ่นนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2022 และแน่นอนว่าทันทีที่เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 100% คันนี้ก็สร้างเสียงฮือฮาได้จากแฟน ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว

BMW CE 04 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 42 แรงม้า รถแรงแถมเสียงนุ่ม

BMW CE 04

BMW CE04 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet, liquid-cooled synchronous ที่ให้กำลังสูงสุด 31 kW หรือ 42 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 62 นิวตัน – เมตร ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้า มาตรฐาน WMTC 130 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และBMW CE 04 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 2.6 วินาที 

แบตเตอรี่ของ 2022BMW CE 04 เป็นชนิดลิเธียม ไอออน (Lithium – ion) ที่มีคุณสมบัติทั้ง น้ำหนักเบา, อายุการใช้งานนาน, ให้พลังงานสูง, คงที่ และชาร์จได้เร็ว โดยความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 8.5 kWh ที่รองรับการชาร์จ 2 รูปแบบ ได้แก่ การชาร์จ 2.3 kW 0 – 100% ใน 4 ชั่วโมง 20 นาที และ 0 – 80% ใน 3 ชั่วโมง 30 นาที และการชาร์จแบบ Quick Charger 6.9 kW 0 – 100% ใน 1 ชั่วโมง 40 นาที และ 0 – 80% ใน 1 ชั่วโมง 5 นาที 

มิติของตัวรถและออฟชั่นมาตรฐานสำหรับประเทศไทยBMW CE 04 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มีความยาวอยู่ที่ 2,285 มม. ความกว้าง (รวมกระจกข้าง) 855 มม. ความสูง (ไม่รวมกระจกข้าง) 1,150 มม. ความสูงเบาะ 780 มม. น้ำหนักรถ 231 กิโลกรัม และ น้ำหนักของรถเมื่อรวมบรรทุกสูงสุด 410 กิโลเมตร โดยรุ่นในไทยจะมาพร้อมจอสี TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อม Connectivity กุญแจแบบ Keyless Ride มีระบบความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกBMW Motorrad ABS หรือ ASC (ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอัตโนมัติ) มี Riding Modes และ รองรับการชาร์จแบบ Quick Charger เป็นต้น 

BMW CE04 ราคา 859,000 บาท พร้อมการวางจำหน่ายแบบจำกัดสุด ๆ 

สำหรับBMW CE 04 ซึ่งเป็น รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่นนี้เป็นรถที่ค่อนข้างจะเหมาะกับคนที่มีบ้านของตัวเองมากกว่าคนที่อาศัยในอพาร์ทเมนท์ หรือ คอนโดฯ เนื่องจากปัจจุบันคอนโดฯ อาจจะยังไม่มีการติดตั้งแท่นชาร์จสำหรับรถไฟฟ้าประเภทนี้ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมีที่สำหรับการชาร์จรถของคุณเอง ซึ่งหากเป็นคนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านก็อาจจะไม่สะดวกมากนัก นอกจากนี้ในส่วนของราคาBMW ce 04 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 859,000 บาท และเนื่องด้วยรถรุ่นนี้เป็นรถที่ค่อนข้างลิมิเต็ดจึงทำให้จำนวนของการนำเข้าไทยค่อนข้างจำกัด ซึ่งปัจจุบันก็ดูเหมือนว่า ในไทยรถรุ่นนี้จะมีเจ้าของหมดทุกคันแล้ว ดังนั้นในปี 2023 นี้ใครที่อยากเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ก็อาจจะไม่ทันแล้ว หรืออาจจะติดต่อสอบถามไปยังศูนย์BMW เพื่อสอบถามเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ก่อนก็ได้เช่นกัน 

อ่านข่าวสารวงการรถ >> Isuzu mu-x รถครอบครัว 7 ที่นั่งตัวฮิตจาก Isuzu

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี