สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

Categories
บทความทั่วไป

Maximilian Gunther จบการทดสอบสุดท้าทายด้วยเวลาเร็วที่สุด

Maximilian Gunther นักแข่งรถ formula 1 จากเยอรมันสร้างสถิติสูงสุดในรายการทดสอบ formula e valencia testing

Maximilian Gunther ขึ้นแท่นอันดับที่หนึ่งด้วยเวลาเพียง 1 นาที 25 วินาที

Maximilian Gunther

Maximilian Guntherนักแข่ง รถ formula 1 สัญชาติเยอรมันได้เข้าร่วมการทดสอบเวลา formula e valencia testing ก่อนจะเอาชนะ Jean-Eric Vergne และ Stoffel Vandoorne ในเซสชั่นสุดท้ายด้วยเวลาดีที่สุดเพียง 1 นาทีกับอีก 25 วินาที ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วง 6 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนการทดสอบจะจบลงกุนเธอร์นักขับจากค่ายมาเซราตี ขึ้นนำอันดับหนึ่งหลังเวลาในการทดสอบผ่านไปเพียง 20 เท่านั้นเขาผ่านจุดเช็คพอยท์แรกด้วยเวลา 1 นาทีครึ่ง ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับรายการอื่น ๆ ต่อมาก็ได้เกิดอุบัติเหตขึ้นกับ Sebastien Buemi นักแข่งรถ ชาวสวิส ในขณะที่เขากำลังเลี้ยวเข้าโค้งที่ 4 เกิดข้อผิดพลาดบางอย่างขึ้น ทำให้รถพุ่งเขาชนขอบทางอย่างจังแต่โชคยังดีที่นักขับไม่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เกิดความล่าช้าเนื่องจากต้องมีการเคลื่อนย้ายซากรถด้วยเครนขนาดใหญ่ และเก็บกวาดทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบครั้งต่อไป

ผลงานของสุดหรูของMaximilian Gunther 

หลังจากเคลียร์สนามแข่งจนเสร็จเรียบร้อยทางMaximilian Gunther และเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง Edoardo Mortara ก็ได้โค่นอันดับหนึ่งในตอนนั้นอย่าง Jean-Eric Vergne ที่ทำเวลาไว้ดีสุดอยู่ที่ 1 นาทีกับ 25 วินาที แต่หลังจากนั้นก่อนหมดชั่วโมงไม่กี่นาทีทาง Jake Hughes นักขับจากแมคราเรนก็ได้พลิกจากอันดับรั้งท้ายขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ของตาราง แข่งรถ f1 ต่อมาในช่วงเซสชั่นสองถูกหยุดกะทันหันเนื่องจาก Jake Dennis นักขับปอร์เช่รถดับที่บริเวณโค้งที่ 5 ทำให้ต้องรอเกือบ 20 นาที เพื่อรอทีมเคลื่อนย้ายมานำรถของเขาออกจากสนาม ก่อนการทดสอบจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นจนฮิวจ์สค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นมาจนรั้งท้ายอันดับที่ 2 ได้สำเร็จ หลังจากกระดานคะแนนถูกรีเซ็ตในช่วงบ่ายแซม เบิร์ด นักขับรถแข่ง จากัวร์ ทำได้ดีสุดเพียงอันดับที่ 5 แม้ในช่วงเช้าเขาจะสามารถทำได้ดีกว่านี้ถึง 1.5 วินาทีก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้ทีมจากอังกฤษอยู่เหนือ Envision ของ Nick Cassidy สำหรับฮิวจ์สก็ยังคงประคองอันดับสี่ไว้ได้หลังทำเวลาเร็วกว่าเบิร์ดอันดับที่ 5 เพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น

Maximilian Guntherให้สัมภาษณ์หลังผ่านบททดสอบครั้งสำคัญได้สำเร็จ

หลังจากจบบททดสอบ formula e valencia testing ทางMaximilian Gunther ก็ได้ออกมาให้คำสัมภาษณ์กับสื่อถึงผลงานในครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อตนเองสามารถไต่ขึ้นมาอันดับที่หนึ่งได้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีใจกับความพยายามฝึกซ้อม ซึ่งมันเป็นการทดสอบที่ยากอีกรายการหนึ่งสำหรับผม เพราะว่าคุณลองมองไปที่ ตารางแข่งรถ f1 สิผมทำเวลาได้ดีกว่าสโตเฟล แวนดอร์น และโอลิเวอร์ โรว์แลนด์ เพียง 0.1-0.9 เท่านั้น ถ้าหากผมช้ากว่านี้เพียงเสียววิอันดับผมอาจจะอยู่ต่ำกว่านี้ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามผมสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากสนามแห่งนี้มามากพอแล้ว ผมเฝ้ารอการแข่งขันในครั้งหน้าและหวังว่าผมจะสามารถทำได้ดีเหมือนในวันนี้”


Horizon Chase Turbo เกมแข่งรถที่ให้ฟีลยุค 80s – 90s เต็มกราฟ

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

Horizon Chase Turbo เกมแข่งรถที่ให้ฟีลยุค 80s – 90s เต็มกราฟ

Horizon Chase Turbo

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเล่นเกมที่ให้อารมณ์ยุค 80s -90s วันนี้เรามีเกมคอนโซลดี ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยบรรยากาศของยุคนั้นมาฝากทุกคน โดยเกมนี้มีชื่อเกมว่า Horizon Chase Turbo ซึ่งเป็นเกมแข่งรถ 16 บิตที่มีทั้งภาพสวย และที่สำคัญยังเป็นเกมคุณควรเล่นกับเพื่อนซี้ระหว่างปาร์ตี้เป็นอย่างยิ่ง

รีวิว Horizon Chase Turbo เกมที่จะทำให้งานปาร์ตี้ของคุณไม่กร่อย

Horizon Chase Turbo

Horizon Chase Turboเป็นเกมที่มาพร้อมฟังก์ชัน Multiplayer Split Screen ที่คุณจะสามารถเล่นเกมในโหมดเล่นหลายคนแบบแบ่งหน้าจอ โดยสามารถแบ่งได้สูงสุด 4 จอ ให้คุณสามารถแข่งขันกับเพื่อน ๆ หรือสมาชิกในครอบครัวในวันปาร์ตี้ หรือ สังสรรค์ชิว ๆ ซึ่งการเล่นเกมก็นับว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เราเชื่อว่า หลายคนต่างชื่นชอบ นอกจากนี้คุณยังสามารถร่วมแข่งขันกับเพื่อน ๆ ทั่วโลกผ่านmultiplayer onlineได้อีกด้วย

ความน่าสนใจของเกมนี้ นอกจากจะมีโหมดเล่นแบบแบ่งหน้าจอได้แล้ว เกมนี้ยังเป็นเกมแข่งรถที่มีภาพค่อนข้างสวย สีสันสดใส ออกแนวการ์ตูนนิด ๆ ซึ่งนับว่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนรู้จักและจดจำเกมนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการออกแบบให้ภาพของเกมนี้ออกมาเป็นแนวภาพ 16 บิตนั้น นับว่าเป็นความตั้งใจของทางผู้พัฒนาที่ต้องการให้ภาพของHorizon Chase ออกมาเป็นแนวภาพเก่า ๆ ผสมผสานเข้ากันแนวภาพปัจจุบันอย่างลงตัว ที่สำคัญไปกว่านั้นhorizon chase turbo gameplay ยังมี 12 ถ้วย, 48 เมือง, สนามแข่ง 111 แห่ง, รถที่ปลดล็อกได้ 33 คัน และการอัปเกรด 12 รายการให้ผู้เล่นได้ร่วมพิชิต ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจที่เราเชื่อว่าไม่ว่าคุณเล่นเกมแข่งรถเกมไหน ๆ คุณก็คงต้องอยากพิชิตสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน 

เล่นเกมHorizon Chase Turbo ได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีอุปกรณ์เหล่านี้

สำหรับHorizon Chase Turbo เป็นเกมคอนโซลที่รองรับหลายแพลตฟอร์มเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น PC ที่สามารถดาวน์โหลดได้ง่าย ๆ บนทั้ง Epic Game และ Steam โดยราคาของHorizon Chase Turbo Steam จะเริ่มต้นที่ 316.99 บาท และ 339 บาท สำหรับบน Epic Game และสำหรับเครื่องเกม เกมนี้รองรับทั้ง Xbox (Xbox One, Xbox Series X|S), Nintendo Switch และHorizon Chase Turbo PlayStation 4 ราคา $19.99 และที่สำคัญถึงแม้เราจะบอกว่าเกมนี้เป็นเกมที่ให้อารมณ์เกมยุค 80s -90s ที่เป็นแนวภาพ 16 บิต แต่เกมนี้ก็มีกราฟิกความละเอียดระดับ 4K เลยทีเดียว ดังนั้นหากคุณเล่นบนอุปกรณ์ที่รองรับภาพระดับ 4K ต้องขอบอกเลยว่า ภพสวยจนใจสั่นแน่นอน

อ่านบทความอื่น ๆ >> F1 mobile racing เกมแข่งรถบนมือถือที่คนรัก F1 ไม่ควรพลาด!

 

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

F1 mobile racing เกมแข่งรถบนมือถือที่คนรัก F1 ไม่ควรพลาด! 

F1 mobile racing

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเล่นเกมแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับ F1 mobile racing ซึ่งเกมในตระกูล F1 นั้นนับว่าเป็นเกมที่อยู่ในวงการเกมแข่งรถมาอย่างยาวนานเลยก็ว่าได้ และล่าสุดสำหรับตัวเกมอัปเดตใหม่ในปี 2022 นี้ ยังอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลดเกมนี้มาเล่น หรือกำลังตามหาเกมแข่งรถมัน ๆ มาไว้เล่นบนมือถือ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเกมนี้กัน

รีวิว F1 mobile racing ตัวเกมอัปเดตล่าสุดของปี 2022 

F1 mobile racing

สำหรับF1 mobile racing เป็น เกมแข่งรถมือถือ ที่เปิดให้เพื่อน ๆ สามารถดาวน์โหลดเล่นได้ฟรี ทั้งระบบ iOS และ Android โดย update 2022 จะมีการอิงกับการแข่งขัน FIA Formula One World Championship ปี 2022 ดังนั้นนักแข่ง และทีมที่จะปรากฏภายในเกมก็จะเป็นทีมเดียวกันกับที่ลงแข่งขันจริงในปี 2022 นี้ อีกทั้งเนื้อหาของเกมบนมือถือยังเป็นเนื้อหาเดียวกับF1 22 อีกด้วย

โดย F1 mobile คุณสามารถเล่นในโหมด REAL-TIME MULTIPLAYER ซึ่งจะดวลกับผู้เล่นจากทั่วโลกในการแข่งแบบ 1 ต่อ 1 แบบเรียลไทม์เพื่อรับรางวัลและชิงการเป็นแชมป์ในลีกนั้น ๆ และ โหมดอาชีพ ให้คุณสามารถเป็นตัวแทนของทีมเพื่อลงแข่งขัน F1 ในฤดูกาลนั้น ๆ ได้ ซึ่งในโหมดนี้คุณยังจะสามารถอัพเกรดรถเพื่อลงในการแข่งขันได้อีกด้วย

นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าร่วมอีเว้นท์การแข่งขัน Grand Prix ซึ่งจะเป็นการแข่งขันแบบจับเวลาเพื่อรับรางวัลใหญ่ และยังเป็นการรวบรวมคะแนนของคุณในแต่ละกิจกรรมเพื่อจัดอันดับในกระดานผู้นำระดับโลก และที่สำคัญการปรับปรุงในปี 2022 ยังมีการอัปเกรดกราฟิกที่สวยงามมากยิ่งขึ้น ให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมคอนโซลบนมือถือเลยก็ว่าได้

F1 mobile 2022 มีอะไรใหม่บ้าง? 

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าF1 mobile racing ได้มีการอัปเดตสิ่งต่าง ๆ ในเกมเพื่อขึ้นมามากมาย ทำให้ตัวเกมนี้น่าสนใจขึ้นไปอีกขั้น โดยเกมนี้มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มมามากมายด้วยกัน เช่น เพิ่ม 2 เส้นทางใหม่ (Wet Weather tracks) ได้แก่ Circuit of The Americas ในสหรัฐอเมริกา และ Autódromo José Carlos Pace ประเทศบราซิล ซึ่งทั้ง 2 สนามการแข่งขันจะค่อนข้างท้าทายเหล่านักแข่งพอสมควรเนื่องจากสภาพอากาศที่ทรหดสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงฟิสิกส์ของ AI เพื่อให้ระบบการตัดสินแม่นยำมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงทำให้เรารู้สึกว่าf1 2022mobile เป็น เกมแข่งรถฟรี ที่น่าจับตามอง และน่าลองเป็นอย่างยิ่ง

อ่านบทความอื่น ๆ >> Ferrari 296 GTS สุดยอดซุเปอร์คาร์แห่งปี 2022 ของ Ferrari

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/ SA-Game คาสิโนออนไลน์ บาคาร่า Casino online พร้อมเปิดบริการพนันออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !

Categories
บทความทั่วไป

Ferrari 296 GTS สุดยอดซุเปอร์คาร์แห่งปี 2022 ของ Ferrari 

Ferrari 296 GTS

เราเชื่อว่าหากกล่าวถึงซุเปอร์คาร์ หรือ รถยนต์สมรรถนะสูงFerrari ตั้งเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่หลาย ๆ คนคงต้องนึกถึงอย่างแน่นอน ซึ่งในปี 2021 ที่ผ่านมาFerrari ได้เปิดตัวFerrari296 GTB รถยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 Plug-in hybrid และสำหรับปี 2022 นี้ก็ถึงคิวของ Ferrari 296 GTS แล้วเป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนว่า เจ้าม้าลำพองรุ่นนี้ดุดันไม่แพ้ใครแน่นอน

Ferrari 296 GTS ซุเปอร์คาร์ระบบไฮบริด 830 แรงม้า 

Ferrari 296 GTSเป็นรถยนต์ระบบไฮบริด ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 PHEV turbo 3.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบ Twin-Turbocharged ที่ให้กำลังสูงสุด 663 แรงม้า ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า และเมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน จึงทำให้รถยนต์รถยนต์รุ่นนี้มีพละกำลังสูงสุดถึง 830 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 740 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch F1 DCT 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง และ Ferrari296GTS 0 – 100 ใน 2.9 วินาที หรือ อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ใน 7.6 วินาที และที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังมี Top Speed ที่สามารถทำได้มากกว่า 330 กม./ชม. ขับขี่ในโหมด EV สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ใน 134 กม./ชม. นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ด้วยหลังงานไฟฟ้า (EV Range) ได้ไกล 25 กิโลเมตร

ความพิเศษของเครื่องยนต์รุ่นนี้ทางดูแลโครงการ NVH & Sound ของ Ferrari กล่าวว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีเสียงคล้ายกับ เครื่องยนต์ V12 จนต้องตั้งฉายาให้เครื่องยนต์รุ่นนี้ว่า “piccolo V12” หรือ “Small V12” นั่นเอง สำหรับเครื่องยนต์ V6 PHEV turbo ยังนับว่าเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานของรถ Formula 1 ของ Ferrari ที่ใช้ทุกคันตั้งแต่ปี 2014 อีกด้วย และสำหรับ New Ferrari296GTS รุ่นนี้ยังเป็นรถยนต์เปิดประทุน ที่มีการออกแบบภายใต้การคงไว้ซื้อดีไซน์ และลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari296 GTB ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ท้าทายของทีมผู้ออกแบบเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจของ296 GTS คือการพัฒนาแอโร่ (aero) จึงทำให้รถรุ่นนี้มีดาวน์ฟอร์ซมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10% เลยทีเดียว

Ferrari 2022 ราคา เริ่มต้น 25.2 ล้านบาท

สำหรับ Ferrari 296 GTS มีรุ่นพิเศษอีกหนึ่งรุ่น ได้แก่ Ferrari296GTS Assetto Fiorano ซึ่งจะเป็นแพ็กเกจชุดแต่งรถพิเศษจาก FerrariและทางFerrari เองก็ยังการรันตรีว่าชุดแต่งดังกล่าวจะช่วยสร้างแรงกดถึง 360 กิโลกรัม ที่ช่วงความเร็ว 240 กม./ชม. นอกจากนี้ 296GTS จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,290,000 บาท (ราคานำเข้า CBU) และสำหรับราคาของ 296GTB จะเริ่มต้นที่ราคา 21,900,000 บาท (ราคานำเข้า CBU) นอกจากนี้ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้คุณยังจะได้รับเซอร์วิสต่าง ๆ มากมายจาก Cavallino Motors Co. Ltd, ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของประเทศไทยอีกด้วย

อ่านบทควFiorano Circuit สนามแข่งรถส่วนตัวของเฟอร์รารี่ ณ ประเทศอิตาลี

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/ SA-Game คาสิโนออนไลน์ บาคาร่า Casino online พร้อมเปิดบริการพนันออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !

Categories
บทความทั่วไป

Fiorano Circuit สนามแข่งรถส่วนตัวของเฟอร์รารี่ ณ ประเทศอิตาลี

Fiorano Circuit

เฟอร์รารี่” นับว่าเป็นแบรนด์รถยนต์อีกแบรนด์หนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก และที่สำคัญเฟอร์รารี่ยังเป็นแบรนด์ที่เน้นผลิตรถยนต์สมรรถนะสูง ดังนั้นทางแบรนด์จึงต้องมีสนามแข่งรถส่วนตัว เพื่อใช้ในการพัฒนาและการทดสอบรถยนต์ของแบรนด์ ซึ่งสนามแห่งนี้มีชื่อว่า Fiorano Circuit ที่สำคัญคือสนามแห่งนี้ยังปรากฏตัวในเกมแข่งรถชื่อดังอีกหลายต่อหลายเกมด้วยกัน 

Fiorano Circuit สนามแข่งรถที่มีตำนานมามากกว่า 50 ปี

FioranoCircuit เป็นสนามแข่งรถส่วนตัวของ Ferrari ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Fiorano Modenese (ฟิออราโน โมเดเนเซ) ประเทศอิตาลี ซึ่งนับว่าเป็นบ้านเกิดของ Ferrari เลยก็ว่าได้ ซึ่งวงจรหรือสนามแข่งแห่งนี้มีใบอนุญาต FIA เกรด 1 ดังนั้นสนามแห่งนี้จึงสามารถใช้ในการแข่งขันหรือทดสอบรถสูตรหนึ่ง หรือ Formula 1 ได้ โดย Circuito di Fiorano เริ่มดำเนินการในปี ค.ศ. 1971 และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1972 และในช่วงแรกนั้นสนามแห่งนี้มีความกว้างอยู่ที่ 8.4 เมตร และ ยาว 3,000 เมตร แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1992 มีการเพิ่มรางชิคเคนทำให้มีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 3,021 เมตร จากนั้นในปี ค.ศ. 1996 ได้มีการปรับปรุงสนามแห่งนี้อีกครั้งจึงทำให้ความยาวรวมสั้นลง 24 เมตร ทำให้ในปัจจุบันสนามแห่งนี้มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 2.997 กิโลเมตร และเนื่องจาก Ferrari FioranoCircuit แห่งนี้เป็นสนามทดสอบรถ จึงสามารถจำลองมุมและลู่วิ่งของสนามแข่ง Grand Prix อื่น ๆ ได้ อย่างหลากหลาย เช่นเดียวกับ SuzukaCircuit ประเทศญี่ปุ่นนั้นเอง

การปรากฏตัวของFiorano Circuit บนเกมแข่งรถที่มีชื่อเสียงระดับโลก

สำหรับ FioranoCircuit นอกจากจะเป็นสนามที่ใช้ในการทดสอบและพัฒนาสุดยอดรถยนต์ของ     เฟอร์รารี่แล้ว สนามแห่งนี้ยังถูกนำไปเป็นสนามสำหรับการฝึกซ้อมของเหล่านักแข่งภายในเกมแข่งรถที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายเกมด้วยกัน เช่น Project CARS 2, Project CARS 3, Test Drive: Ferrari Racing Legends รวมไปถึง FioranoCircuit Assetto Corsa เป็นต้น 

นอกจากนี้สนามแห่งนี้ยังถูกใช้ในการทดสอบทั้ง Formula One, รถแข่ง และ Road cars จาก Ferrari หลายต่อหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Ferrari 248 F1, Ferrari FXX และ Ferrari 458 Italia เป็นต้น และที่สำคัญไปกว่านั้นสนามแห่งนี้ยังเคยถูกใช้ในการทดสอบรถยนต์จากแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Maserati เช่น Maserati MC12 Competizione, Maserati MC12, Maserati Trofeo และ Maserati Coupé เป็นต้น และสำหรับลูกค้าของ Ferrari ที่เป็นเจ้าของรถรุ่นพิเศษจากเฟอร์รารี่บางรุ่นยังได้รับอนุญาตให้ใช้สนามแห่งนี้ในการทดลองรถของคุณได้อีกด้วย เช่น Ferrari 599 GTB Fiorano และ Ferrari SF90 Assetto Fiorano เป็นต้น  

อ่านบทความอื่น ๆ >> Jeep wrangler rubicon สุดยอดรถยนต์ 4×4 ที่จะพร้อมลุยไปกับคุณทุกที่

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/ SA-Game คาสิโนออนไลน์ บาคาร่า Casino online พร้อมเปิดบริการพนันออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !

Categories
บทความทั่วไป

Jeep wrangler rubicon สุดยอดรถยนต์ 4×4 ที่จะพร้อมลุยไปกับคุณทุกที่

Jeep wrangler rubicon

Jeep wrangler rubicon นับว่าเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Jeep ที่ทำการเปิดตัวภายในปี 2022 นี้ โดยสุดยอดรถยนต์ออฟโรดรุ่นนี้นับว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นจาก Jeep ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญสเปคของรถยนต์รุ่นนี้ยังน่าสนใจทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอก ภายใน รวมไปถึงเครื่องยนต์ จึงทำให้เราไม่อยากพลาดที่จะหยิบเราสเปคของรถยนต์รุ่นนี้มาพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในวันนี้

สเปคของ Jeep wrangler rubicon ออฟโรด 270 แรงม้า 

Jeep wrangler rubicon หรือ Jeep rubicon 2022 เปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น 2 ประตู และ 4 ประตู ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตรพร้อม ESS (เครื่องยนต์มีให้เลือกส่งแรงบิด 295 ปอนด์ฟุต) ที่ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงลากจูงสูงสุด 3,500 ปอนด์ฟุต และที่สำคัญยังมีอัตราสิ้นเปลืองชื้อเพลิงสูงสุด 10.1 ลิตร/100 กิโลเมตร 

2022 jeep wrangler rubiconมาพร้อมระบบ Command-Trac 4×4 แบบ Part-time (ระบบพื้นฐาน) ซึ่งเป็นระบบที่จะส่งแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ล้อ เพื่อการยึดเกาะกับพื้นผิวที่ดียิ่งขึ้น เมื่อต้องขับขี่ในสภาพของถนนที่ไม่เรียบ เช่นการขับขี่บนเชิงเขา, การปีนไต่บนโขดหิน หรือ ทางวิบาก เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกได้ว่าจะให้WranglerRubicon ของคุณมาพร้อมระบบ Rock-Trac 4×4 แบบ Part-time มาตรฐาน หรือคุณสามารถเลือกระบบ Rock-Trac 4×4 แบบ Full-time ซึ่งจะเปลี่ยนรถของคุณจากระบบ 2WD ให้เป็นระบบ 4WD โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดการลื่นไถลด้วยอัตราทดเกียร์ต่ำ นอกจากนี้ยังมีระบบต่าง ๆ ที่จะทำให้รถรุ่นนี้พร้อมกับการขับขี่แบบออฟโรดอยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นรถรุ่นนี้จึงเหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมือง และ ออฟโรด ในคันเดียวกัน  

ราคาjeep wrangler rubicon เริ่มต้นเบา ๆ เพียง 5 ล้านต้น ๆ 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของJeep wrangler rubicon สำหรับปี 2022 นี้ รถรุ่นนี้นำเข้ามายังประเทศไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นใครที่อยากเป็นเจ้าของจึงสามารถเข้าไปสัมผัสรถของจริงได้จากโชว์รูมสามารถต่าง ๆ ของJeepรวมไปถึงจากโชว์รูมผู้นำเข้าอิสระจากทั่วประเทศ และในส่วนของราคารุ่น 2 ประตู มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,190,000 บาท และสำหรับรุ่น 4 ประตู มีราคาเริ่มต้นที่ 5,290,000 บาท ซึ่งแตกต่างกันเพียง 100,000 บาทเท่านั้น 

นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นมีสีให้เลือกมากถึง 10 สีเลยทีเดียว ได้แก่ Black, Bright White, Firecracker Red, Granite Crystal Metallic, Sting-Gray, Silver Zynith, Tuscadero Pearl, Snazzberry Pearl, Hydro Blue และ Sarge Green ซึ่งทุกสีสามารถเลือกได้เลยแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด

อ่านบทความอื่น ๆ >> Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เข้าสู่เมืองไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ เว็บพนันออนไลน์ มั่นคงปลอดภัย มั่นใจซื่อตรง เปิดบริการแล้วครบจบในที่เดียว

Categories
ข่าวสาร บทความทั่วไป

Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เข้าสู่เมืองไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย

Tesla Model 3

Tesla นับว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าเข้ามาปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายมาเป็นที่สนใจของผู้คนเพียงใช้ระยะเวลาไม่นาน และทันที Tesla ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของเขาออกมาก็กลายเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างยิ่ง และทำให้แบรนด์รถยนต์ชั้นนำหลาย ๆ แบรนด์ก็ไม่พลาดที่จะปล่อยของออกมาเช่นกัน และล่าสุดกับ Tesla Model 3 ที่มีข้อมูลว่าในช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมายอดของการจำหน่ายรถรุ่นสูงถึงหลักล้านคันเลยทีเดียว และล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ก็เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย และเราก็ไม่พลาดที่จะนำสเปคของรถรุ่นนี้มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย

เปิดสเปคของ Tesla Model 3 รุ่น Performance ตัวท๊อปของ Model 3

สำหรับTesla Model 3 นั้นได้มีการเปิดตัวรถรุ่นย่อยออกมาทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกันได้แก่ Standard, Long Range และ Performance ซึ่งรุ่นที่เราจะนำมารีวิวให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จักกันในวันนี้คือรุ่นTesla Model 3 Performance ซึ่งจะเรียกว่าเป็นรุ่นท็อปของ Model 3 เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้สำหรับใครที่สงสัยว่ารุ่น long range กับ performance ต่างกันอย่างไร หรือ กี่แรงม้า วันนี้เราได้หาคำตอบเหล่านั้นมาให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว

เครื่องยนต์ / มอเตอร์

Tesla Model 3 ใช้มอเตอร์แบบ Synchronous กระแสสลับ 2 มอเตอร์ ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 562 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตันเมตร และมีอัตราเร่งจาก 0 – 60 ไมล์/ชม. อยู่ที่3.1 วินาที ที่สำคัญยังสามารถทำความเร็วสูงสุด 261 กม./ชม. เลยทีเดียว ซึ่งรุ่น Long Range ก็ให้ มอเตอร์แบบ Synchronous กระแสสลับ 2 มอเตอร์มาเช่นกัน แต่ในส่วนของอัตราเร่ง แรงม้า หรือความเร็วสูงสุดจะต่ำกว่ารุ่น Performance เล็กน้อยนั่นเอง

แบตเตอรี่

ในส่วนของแบตเตอรี่รุ่นนี้ ใช้แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งคุณสมบัติที่ดีของแบตเตอรี่ประเภทนี้คือ การจ่ายไฟที่แรง และคงที่อยู่ตลอดเวลา แม้ไฟในแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็ตาม ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นรถไฟฟ้าจากอีกหลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้แบตประเภทนี้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) ยังสามารถวิ่งได้ไกลถึง 547 กิโลเมตร เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของรถรุ่นนี้ยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่ทำให้Tesla ขึ้นมาเป็นแบรนด์รถยนต์ และนวัตกรรมแถวหน้าได้นั้นไม่ใช้เพียงแค่เขาสามารถออกแบบและประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงม้าสูง และดีไซน์สวยเท่านั้น แต่ความน่าสนใจของรถTesla ทุก ๆ รุ่นคือนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีในสินค้าของพวกเขา ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าในTesla Model 3 ก็ให้มาอย่างครบครัน ทั้งเรื่องของมตราฐานความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมากมาย

ราคาของ Model 3 อย่างไม่เป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายในเมืองไทย

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของTesla Model 3 แต่ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับราคาของรถรุ่นนี้ ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าTesla ไม่ได้ทำการตลาดในไทยโดยตรงดังนั้นหากใครที่อยากเป็นเจ้าของจึงจำเป็นต้องซื้อผ่านผู้นำเข้าอิสระซึ่งส่วนใหญ่จะนำเข้าจาก 2 ประเทศหลัก ๆ ได้แก่อังกฤษ และ ฮ่องกง ซึ่งจะทำให้มีเรทราคาที่แตกต่างกันออกไป 

ดังนั้น ราคา ในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ราว ๆ 1,590,000 บาท สำหรับ รุ่น Standard, 1,890,000 บาท สำหรับ รุ่น Long Range และ รุ่น Performance ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,150,000 บาท แต่สำหรับtesla model 3 ราคาในไทย 2022 หากเป็นรุ่น Performance จะอยู่ที่ราว ๆ 4,xxx,xxx บาทเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่น ๆ >> Mercedes-Maybach GLS รถยนต์ SUV 4 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Benz

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ เว็บพนันออนไลน์ มั่นคงปลอดภัย มั่นใจซื่อตรง เปิดบริการแล้วครบจบในที่เดียว