สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

Categories
บทความทั่วไป

Ford Model T รถคันแรกของ Ford กับตำนานกว่า 114 ปี

Ford Model T เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีการผลิตขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 – 1927 ซึ่งนับมาจนถึงปัจจุบันก็นับเป็นเวลากว่า 114 ปีเข้าไปแล้ว โดยรถรุ่นนี้นับว่าเป็นรถรุ่นแรกที่ผลิตภายใต้ Ford Motor Company และที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังนับว่าเป็นหนึ่งในรถรุ่นยอดนิยมของยุคนั้นเลยก็ว่าได้

Ford Model T รถที่สร้างประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของ Ford 

รถยนต์Ford Model T รุ่นปี 1908 เป็นรถที่เกิดจากความตั้งใจของ Henry Fordที่ต้องการให้Model T มีราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย และทนทาน โดยรถยนต์รุ่นนี้นับว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ผลิตจำนวนมากเป็นรุ่นแรก ๆ ของยุคนั้น ซึ่งFord Model T 1908 ได้รับการผลิตขึ้นในสายการประกอบชิ้นส่วนเคลื่อนที่ของFord Motor Company ที่ถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Highland Park Ford Plant ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประกอบรถยนต์ในสายการผลิตแบบสายพานเคลื่อนที่ 

Model Tได้รับการทดสอบครั้งแรกโดย Henry Fordซึ่งนำรถไปล่าสัตว์ที่รัฐวิสคอนซินและทางตอนเหนือของรัฐมิชิแกน อีกทั้ง 1908Ford Model T ยังเคยถูกนำไปแสดงโลดโผนในแบบต่าง ๆ รวมถึงการปีนบันไดของศาลาว่าการรัฐเทนเนสซี และขึ้นสู่ยอด Pikes Peak และหลังจากการทดสอบรถรุ่นนี้หลายต่อหลายครั้ง รถก็ถูกส่งไปยังลูกค้ารายแรกในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1908 

นอกจากนี้ Model T ยังเป็นรุ่นแรกที่มีบล็อกเครื่องยนต์ เป็นรายแรกที่มีฝาสูบแบบถอดได้ และเป็นรายแรกที่ใช้โลหะผสมน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรง ทนทาน ที่เรียกว่าเหล็กกล้าวาเนเดียมมาใช้ในการผลิตรถรุ่นนี้ด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้น ระบบส่งกำลังที่ว่องไวของ Model T ทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน การปรับปรุงและนวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้โลกก้าวไปสู่วิถีชีวิตแบบคนเมืองมากขึ้น ดังนั้นหากจะเรียก Model T ว่าเป็นรถยนต์ที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุคนั้นก็คงไม่ผิดไปซะทีเดียว

รถยนต์Ford Model Tราคา 260 – 850 ดอลลาร์ สอดคล้องกับความต้องการของ Henry Ford

รถยนต์Ford Model T รุ่นนี้เปิดตัวมาพร้อมราคา 260 – 850 ดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นค่าเงินในปัจจุบันจะอยู่ที่ราว ๆ 8,954 – 29,274 บาท ซึ่งถามว่าเป็นราคาที่ถูกและจับต้องขนาดนั้นไหม ก็คงจะต้องบอกว่าไม่ แต่เนื่องจากรถยนต์ในยุคนั้นก็นับว่าเป็นเครื่องบอกถึงสถานะทางสังคม ดังนั้นคนที่จะสามารถซื้อรถได้ก็คงต้องมีสถานะทางการเงินที่ดีมากพอสมควร แต่หากจะเปรียบเทียบกับรถแบรนด์อื่น ๆ ในยุคนั้น ฟอร์ด โมเดลที ก็นับว่าเป็นรถที่มีราคาถูกกว่ารถรุ่นอื่น ๆ อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว 

ใครว่า ดอกยาง รถยนต์ไม่สำคัญ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจถ้ายังไม่รู้ความจริง !

Sandy Stuvik นักแข่งรถไทย ดาวน์รุ่นวัย 27 ปี ที่ฮอตที่สุดในเวลานี้

Categories
บทความทั่วไป

Sandy Stuvik นักแข่งรถไทย ดาวน์รุ่นวัย 27 ปี ที่ฮอตที่สุดในเวลานี้

นักแข่งรถไทย

หากกล่าวถึง Sandy Stuvik นักแข่งรถไทย เราเชื่อว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้คงต้องรู้จักเขาคนนี้อย่างแน่นอน ซึ่งในชั่วโมงนี้แซนดี้นับว่าเป็นหนึ่งในนักแข่งชาวไทยที่ฮอตที่สุดอีกหนึ่งคนเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา แซนดี้เพิ่งจะได้รับรางวัลแชมป์ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ 2022 ประเภทนักขับรุ่นซูเปอร์คาร์ GT 3 มาแบบสด ๆ ร้อน ๆ 

เปิดเส้นทางสู่การเป็น นักแข่งรถไทย ของ Sandy Stuvik 

นักแข่งรถไทย

Sandy Stuvik หรือ แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งรถไทย ลูกครึ่งนอร์เวย์ เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน 1995 ปัจจุบันอายุ 27 ปี ที่มีเส้นทางการเป็น นักแข่งรถ ของแซนดี้ก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยแซนดี้เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ หนึ่งวันดี ๆ กับคนดัง ว่าความหลงใหลในกีฬารถแข่งของเขาเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในวัย 4 ขวบ ด้วยการเริ่มขับโกคาร์ทจากการชักชวนของเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน และหลังจากนั้นไม่นานแซนดี้ก็ได้เริ่มการแข่งขันโกคาร์ทในท้องถิ่นหลาย ๆ รายการ และดูเหมือนว่าฝีมือในการขับขี่ของเขาจะน่าจับตามองไม่เบาเลยทีเดียว

กระทั่งในวัย 13 ปี แซนดี้ก็สามารถคว้าแชมป์เอเชียโกคาร์ท ซึ่งเป็นการจุดประกายความฝันครั้งยิ่งใหญ่ของเพื่อที่จะไปสู้การแข่งขันในรายการที่ใหญ่ขึ้น จนในปี 2010 ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันรถล้อเปิด Formula Renault ในรายการ Asian Formula Renault Challenge และแน่นอนว่าในรายการดังกล่าวนับว่าเป็นปีแรกสำหรับการแข่งขันรถประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากโกคาร์ท ซึ่งเขาก็สามารถทำผลงานออกมาได้ดีจนทำให้สามารถคว้าอันดับ 1 ในรายการดังกล่าวมาได้ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ เขากลายเป็น นักแข่งรถคนไทย คนแรก และนักแข่งที่มีอายุน้อยที่สุดที่เคยชนะในรายการแข่งขันนี้อีกด้วย

จากนักแข่งโกคาร์ทสู่นักแข่งรถไทย ระดับโลก

แซนดี้นอกจากจะเป็นนักแข่งรถไทย ที่มีประวัติสู่การเป็นนักแข่งรถที่มีความเป็นมาน่าสนใจไม่น้อยแล้ว ปัจจุบันแซนดียังกลายเป็น นักแข่งรถยนต์ ไทย ที่มีฝีไม้ ลายมือ และผลงานไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยปัจจุบันแซนดี้ได้สังกัดทีม B – Quik Racing โดยรถ Audi R8 LMS GT3 evo II และที่สำคัญไปกว่านั้น ดังที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า ในปี 2022 ที่ผ่านมา แซนดียังได้รับรางวัลแชมป์ประจำปี 2022 ประเภทนักขับรุ่นซูเปอร์คาร์ GT 3 Thailand Super Series 2022 ในงาน The Night of Champions 2022 ซึ่งภายในงานยังได้มีการมอบรางวัลให้กับนักแข่งประเภทอื่น ๆ อีกหลากหลายรายการ และที่สำคัญงานนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงานที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งของไทยเลยก็ว่าได้

อ่านบทความอื่น ๆ >> Mercedes-Benz x MONCLER ให้รถของคุณเป็นมากกว่ายานพาหนะ!  

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

Mercedes-Benz x MONCLER ให้รถของคุณเป็นมากกว่ายานพาหนะ!  

Mercedes-Benz x MONCLER

โลกของแฟชั่น กับโลกของการออกแบบยานยนต์แทบจะเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันแทบไม่ได้ เพราะรถยนต์แต่ละคันจะมีการออกแบบและตกแต่งให้มีรูปลักษณ์และสไตล์ที่แสดงถึงตัวตนของรถแต่ละรุ่นให้มีความโดดเด่นที่สุด ดังนั้น Mercedes – Benz จึงอยากสนองนีดสายแฟชั่นทุกคนด้วยการเปิดตัวคอลลเลกชั่น Mercedes-Benz x MONCLER ด้วยการดึงเอาเอกลักษณ์ของจากทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ (Mercedes – Benz) และ อุตสาหกรรมแฟชั่น (MONCLER) เข้ามาไว้ใน G-Class รถยนต์รุ่นยอดนิยมของ Mercedes ให้เป็นสุดยอดรถยนต์ที่ทุกสายตาต้องหันมอง

Mercedes-Benz x MONCLER ศิลปะที่ไร้ขอบเขต

Mercedes-Benz x MONCLER

Mercedes-Benz x MONCLERร่วมกันเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Project Mondo G ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นที่มีแนวคิดมาจาก “สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง” และนำแนวคิดนี้มาใช้ในการออกแบบMercedes-Benz G – Class ให้มีดีไซน์ใหม่ และแหกทุกกฎให้อยู่เหนือจินตนาการด้วยผ่านศิลปะและเทคโนโลยี จนทำให้ G – Class รุ่นนี้เป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะที่ผสมผสานคุณสมบัติการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ของรถออฟโรดเข้ากับการออกแบบของเสื้อนวมขนเป็ดของMoncler ทำให้เกิดความแตกต่างที่สวยงาม

MONCLER แบรนด์เสื้อผ้าสุดหรูที่มีประวัติยาวนานกว่า 71 ปี

หลังจากที่เพื่อน ๆ ได้เห็นข่าวเกี่ยวกับMercedes-Benz x MONCLER ที่เรานำมาฝากในข้างต้นแล้ว หลายคนก็อาจจะยังสงสัยว่า“MONCLER” คือแบรนด์เสื้อผ้าแนวไหน หรือมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไม Mercedes-Benzจึงอยากร่วมงานด้วย

ก่อนอื่นเรามาดูในส่วนของประวัติความเป็นมาของ MONCLER กันก่อน โดย มงแคลร์ เป็นแบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติอิตาลีที่เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปพร้อมสวมใส่ ซึ่งในช่วงแรกทางแบรนด์เริ่มจากการเป็นร้านบูติกขายเสื้อแจ็กเก็ตเท่านั้น และในเวลาต่อมาก็ได้ขยายไปสู่การออกแบบเสื้อกั๊ก, เสื้อกันฝน, เสื้อกันลม, เสื้อถัก, เครื่องหนัง, รองเท้า, น้ำหอม และ accessories ต่าง ๆ เป็นต้น 

โดยแบรนด์นั้นก่อตั้งมาตั้งอย่างเป็นทางการในช่วงปี 1952 หรือ 71 ปีที่แล้ว ในเมืองหนึ่งที่อยู่บนเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นสินค้าของทางแบรนด์จึงเป็นสินค้าที่ออกแบบมาให้ถูกใช้งานในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะนักปีนเขา และนักเล่นสกีทั่วยุโรป เป็นต้น แต่หลังจากนั้นในช่วงปี 2003 แบรนด์ได้ประสบปัญหาอย่างหนักจนต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองมิลาน อิตาลี และเปิดตัวอีกครั้งในด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์เสื้อผ้าสุด Luxury ระดับโลก 

นอกจากนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา MONCLER ยังเคยร่วมงานกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอีกหลากหลายแบรนด์ เช่น JW Anderson, Craig Green, adidas, fragment design, Palm Angels และล่าสุดคือ Mercedes-Benz กับโปรเจกต์ที่เราพาทุกคนไปรู้จักกันในวันนี้นี่เอง

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Red Bull มาแรงไม่หยุดหลัง Sergio Perez คว้าแชมป์ Saudi Arabian Grand Prix 2023

Categories
บทความทั่วไป

Red Bull มาแรงไม่หยุดหลัง Sergio Perez คว้าแชมป์ Saudi Arabian Grand Prix 2023

Saudi Arabian Grand Prix 2023

Saudi Arabian Grand Prix 2023 ปิดฉากลงอย่างสวยงาม พร้อมกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งของทีม Red Bull โดยสนามนี้เป็น Sergio Perez ที่สามารถคว้าอันดับหนึ่งมาได้ หลังโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีตั้งแต่สนามแรก ไปจนถึงรอบ Qualifying ที่เกิดขึ้นในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา

Red Bull Team คว้าแชมป์อันดับ 1 และ 2 ในรายการ Saudi Arabian Grand Prix 2023 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะการแข่งขัน Formula 1 ก็จะทราบดีว่า แชมป์ F1 ปี 2022 ที่ผ่านมาเป็น Max Verstappen นักแข่งจาก Red Bull Team ที่สามารถคว้าแชมป์โลกครั้งนั้นมาได้ และ Sergio Perez เพื่อนร่วมทีมของ Max ที่สามารถความแชมป์โลกอันดับ 3 ปี 2022 มาได้ ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่จะส่งไปถึงคู่แข่งของพวกเขาทุกคนว่า Red Bull Team เป็นคู่แข่งที่พวกเขาจะประมาทไม่ได้เลย 

ในการแข่งขัน Formula One ฤดูกาล2023 นักแข่งทั้ง 2 จาก Red Bull ยังคงฟอร์มดีไม่ตกเพราะหลังจากที่เปิดฤดูกาลไปได้เพียง 2 สนาม นักแข่งของ Red Bull ก็ความชัยชนะมาได้ทั้ง 2 สนามโดยสนามแรกเป็น Max Verstappen และสนามที่ 2 Saudi Arabian Grand Prix2023 ก็เป็น Sergio Perez ซึ่งทั้งของคนเหมือนสลับกันเป็นแชมป์เลยก็ว่าได้ และที่สำคัญ Sergio Perez ยังสามารถทำเวลาออกมาได้ดีกว่ารอบแรกกว่า 10 นาทีเลยก็ว่าได้ ในขณะเดียวกัน Max Verstappen ก็ตามเข้าเส้นชัยมาติด ๆ ด้วยเวลาห่างกันเพียง 10วินาทีเท่านั้น

Saudi Arabian Grand Prix 2023

เร่งสะสมคะแนนตั้งแต่เริ่มฤดูกาลเพื่อการเป็นแชมป์โลก!! 

แม้ว่าการแข่งขัน Formula One2023 จะพึ่งเริ่มต้นขึ้นได้เพียง 2 สนามเท่านั้น แต่การที่คุณจะเป็นแชมป์โลกได้นั้นจะมาจากคะแนนสะสมของคุณจากการแข่งขันทั้งหมดในฤดูกาลนั้น ดังนั้นการที่นักแข่งของแต่ละทีมสามารถทำคะแนนออกมาได้ดีตั้งแต่เริ่มฤดูการแข่งขัน เมื่อไปถึงสนามท้าย ๆ แล้วคุณมีคะแนนสะสมมากพอ นักแข่งคนนั้นจึงจะไม่ต้องเหนื่อยจนเกินไป และจะทำให้แชมป์โลกมาอยู่ในมือของคุณต้องแต่ยังไม่จบการแข่งขันเลยก็ว่าได้ และในปัจจุบันหลังจากที่จบการแข่งขัน Saudi Arabian Grand Prix2023 Sergio Perez มีคะแนนสะสมอยู่ที่ 43 คะแนน ซึ่งตามหลัง Max Verstappen เพื่อร่วมทีมอยู่แค่เพียง 1 คะแนนเท่านั้น และที่สำคัญจบการแข่งขันไปแล้วของสนามเขาทั้งสองสามารถทิ้งห่างทีมคู่แข่งอย่าง Aston Martin ทีมที่มีคะแนนอันดับ 3 อยู่ 10 กว่าคะแนนเลยทีเดียว

นอกจากนี้ในการแข่งขัน Formula 1 Saudi Arabian Grand Prix2023 ในรอบ Qualifying Sergio Perez ยังสามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีจนสามารถคว้าอันดับโพลมาได้ ในขณะที่รถแข่งของ Max Verstappen มีปัญหาจนไม่สามารถแข่งจนจบเกมในรอบดังกล่าวได้ แต่ในรอบแข่งจริงพวกเขาทั้ง 2 ก็สามารถทำเต็มที่จนเป็นแชมป์และรองแชมป์ในรายการ Formula 1 STC Saudi Arabian Grand Prix2023 มาได้ในที่สุด


Maserati Levante รถยนต์ SUV ระบบไฮบริดตัวแรง

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

Maserati Levante รถยนต์ SUV ระบบไฮบริดตัวแรง

Maserati Levante เป็นรถยนต์ SUV ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 และนับว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอีกรุ่นหนึ่งของแบรนด์เลยก็ว่าได้ และล่าสุดกับ Maserati Levante ระบบไฮบริด ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 ที่ผ่านมา และงานนี้บอกได้เลยว่าสเปคของรถรุ่นนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

Maserati Levante รถยนต์ไฮบริด 330 แรงม้า พร้อม Top Speed 240 กม./ชม. 

Maserati Levanteเป็นรถยนต์ SUV 5 ที่นั่ง ที่มีรุ่นย่อยให้เลือกมากถึง 4 รุ่น ได้แก่ Trofeo, Modena, Modena S และMaserati Levante GT Hybrid รุ่นที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ โดยMaserati Levante รุ่นนี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2 ลิตร 1995 cc ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 48V ที่ให้กำลังทั้งหมด 330 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน – เมตร ความเร็วสูงสุด (Top Speed) 240 กม./ชม. 0-100 กม./ชม. ใน 6.0 วินาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) 

โดย 2022Maserati Levanteระบบไฮบริดจะใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 18% แต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรุ่นMaserati Levante Modena ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 350 แรงม้า และให้กำลังขับที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับLevante Diesel รุ่นเก่า และที่สำคัญทุกครั้งที่คุณลดความเร็วหรือเหยียบเบรก พลังงานจะถูกชาร์จกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่เพื่อให้รถของคงยังคงมีพละกำลังที่สุดยอดดังเดิม

นอกจากนี้สำหรับการตกแต่งภายในของห้องโดยสาร และความบันเทิงต่าง ๆ ก็ให้มาแบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊กตามสไตล์ Maserati โดยภายในห้องโดยสารจะเป็นการตกแต่งแบบ Piano Black เบาะนั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง ปรับดันหลัง 4 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกความจำ และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านข้างคนขับ สามารถปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ที่สำคัญเบาะหน้าทั้ง 2 เบาะมาพร้อมฟังก์ชันอุ่นเบาะ และในส่วนของหน้าจอกลาง มาพร้อมจอระบบสัมผัส ขนาด 8.4 นิ้ว ชุดเครื่องเสียงแบบมาตรฐานลำโพง 8 ตัว ระบบวิทยุดิจิตัล และที่สำคัญคือมีเซนเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศ Air Quality Sensor ที่จะช่วยให้คุณได้รับอากาศที่บริสุทธิ์อยู่เสมอ

Maserati Levante2022 ราคา นำเข้าประเทศไทย เริ่มต้นที่ 7,990,000 บาท 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของMaserati Levante รุ่น GT Hybrid ที่เราพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกันในวันนี้ คุณสามารถสั่งจองได้กับMaserati Thailand ได้แล้ว โดยมีอยู่ทั้งหมด 3 สาขาทั่วกรุงเทพฯ โดยMaserati Levante Hybrid ราคา นำเข้าไทยเริ่มต้นที่ 7,990,000 บาท และที่สำคัญคือคุณยังสามารถเลือกการตกแต่ง และเพิ่มออปชันต่าง ๆ ของรถได้ตามที่ต้องการ โดยที่รถของคุณจะถูกแต่ง และประกอบเสร็จทั้งคันที่อิตาลี ก่อนจะนำเข้ามายังในประเทศ เนื่องจากรถรุ่นนี้จะเป็นการนำเข้าแบบ CBU นั่นเอง 

อ่านข่าวสารรถอื่น ๆ >> 1954 Fleetwood Series 60 คาดิลแลคสีชมพูคันแรกของ Elvis Presley

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
บทความทั่วไป

1954 Fleetwood Series 60 คาดิลแลคสีชมพูคันแรกของ Elvis Presley

1954 Fleetwood Series 60

หากพูดถึง “ราชาแห่งร็อกแอนด์โรล” (King of Rock and Roll) อย่าง Elvis Presley นอกจากหลาย ๆ คนจะรู้จักเขาในนามของนักร้องเพลงร๊อคแอนด์โรลระดับตำนานแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่า หากใครได้เห็นเป็นต้องคิดถึงเขาคนนี้เป็นคนแรกนั่นคือ 1954 Fleetwood Series 60 คาดิลแลคสีชมพู ซึ่งเป็นรถยนต์คาดิแลคคันแรกของ Elvis และดูเหมือนว่าเขาจะหลงรักและคลั่งไคล้ในรถแบรนด์นี้เป็นอย่างมาก จนทำให้มีคำพูดที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง “ELVIS” ที่พูดถึงความฝันของการอยากเป็นเจ้าของรถคาดิแลคสีชมพูของตัวเขาและแม่ของเขา

ประวัติอันน่าทึ่งของ 1954 Fleetwood Series 60 ที่น่าสนใจไม่แพ้ประวัติของเจ้าของ

1954 Fleetwood Series 60

1954 Fleetwood Series60 เป็นรถยนต์ 4 ประตูจากแบรนด์คาดิแลค ซึ่งเป็นรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ที่โด่งดังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเอลวิสซื้อรถคาดิลแลคคันแรก (Fleetwood Series60) ระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ – 9 มีนาคม ปี 1955 ซึ่งจะมีตัวรถเป็นสีชมพูและหลังคาสีขาว 

แต่ไม่กี่เดือนถัดจากนั้นในวันที่ 7 มิถุนายน1955 Cadillac Fleetwood series 60 ของเขาก็ถูกไฟไหม้บนถนนระหว่าง Hope and Texarkana ซึ่งมีสาเหตุมาจากเบรกแตกจนก่อให้เกิดไฟลุกไหม้ แต่จากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทุกคนที่โดยสารมาในรถ เครื่องดนตรีรวมถึงตัวเอลวิสเองก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ระหว่างนั้นก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ Fleetwood Series 60 ปรากฏตัวคู่กับเอลวิสอยู่บ่อยครั้ง เช่น ในงานเฉลิมฉลองอนุสรณ์สถาน James Frederick Rodgers เป็นนักร้องเพลงคันทรี และนักแสดงชาวอเมริกัน ที่เมอริเดียน เมืองมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 1955 

นอกจากนี้ตามข้อมูลจากนิตยสาร Elvis ในปี 1956 ระบุว่าไมล์ของ Pink Cadillac Fleetwood วิ่งจาก 13,000 เป็น 64,000 ไมล์ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน หลายคนคาดการณ์ว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเอลวิสอาจจะในช่วงเวลาว่างจากการขึ้นทัวร์คอนเสิร์ตไปกับการขับรถคันนี้ไปมาเพื่อชมการแสดงตามที่ต่าง ๆ แทนที่เขาจะพักผ่อนอยู่ในโรงแรม 

เอลวิส เพรสลีย์ คนคลั่งไคล้รถตัวยง  

เอลวิส เพรสลีย์ นอกจากจะเป็นแฟนตัวยงของ Cadillac ที่เป็นเจ้าของ1954 Fleetwood Series 60 และรถคาดิแลครุ่นอื่น ๆ แล้ว เอลวิสยังเป็นเจ้าของรถแบรนด์อื่น ๆ อีกมากกว่า 200 คัน เช่น Rolls Royce Phantom V, 1960 Lincoln Continental Mark 5, BMW 507s และ 1962 Ford Thunderbird เป็นต้น ซึ่งใครที่ได้เป็นเจ้าของในยุคนั่นต้องจัดว่าเป็นผู้ที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควรเลยทีเดียว 

นอกจากนี้รถของเอลวิสหลาย ๆ คันยังถูกนำมาประมูลขาย เช่น 1971 Stutz Blackhawk Series 1 Coupe ที่ถูกขายไปล่าสุดในราคา $399,500 หรือราว ๆ 13,495,110 บาทเลยทีเดียว

อ่านข่าวสารรถอื่น ๆ >> Grid Legends เกมรถแข่งคุณภาพที่กลายเป็นตัวท็อปในยุคนี้

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี