สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

Categories
บทความทั่วไป

Mercedes Benz AMG One จาก Project Car สู่ไฮเปอร์คาร์ 1,063 แรงม้า

Mercedes Benz AMG One

Mercedes Benz AMG One เป็น Project Car ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2017 แต่ล่าสุดเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ทาง Mercedes AMG ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เนื่องจากทางผู้พัฒนาได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Mercedes Benz AMG One ภายในงาน 2022 Goodwood Festival of Speed ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 26 มิถุนายน 2022 และแน่นอนว่าผู้พัฒนาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เพราะในที่สุดแล้วรถรุ่นนี้มีแรงม้าสูงสุดถึง 1,063 แรงม้าเลยทีเดียว

Mercedes Benz AMG One เทคโนโลยีจากรถแข่ง F1 เร่งแรง 15.6 วินาที วิ่งทะลุ 300 กม. 

ไฮเปอร์คาร์Mercedes Benz AMG One หรือชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่าMercedes-AMG Project ONE เป็นรถไฮเปอร์คาร์ที่นำเอาเทคโนโลยีของ Formula One มาใช้กับรถคันนี้ ดังนั้นจะพูดว่าจากรถแข่งในสนามสู่ท้องถนนก็คงไม่ผิดไปทีเดียว โดยไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้เป็นรถยนต์แบบ 2 ที่นั่ง Premium-Class E Performance Plug-in Hybrid ที่ผสานพลังงานจาก 2 แหล่ง ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบ 1.6 ลิตร 1,599 ซีซี และมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวสำหรับเทอร์โบชาร์จเจอร์ เครื่องยนต์สันดาปสามารถทำกำลังสูงสุด 574 แรงม้า (422 กิโลวัตต์) ที่ 9000 รอบต่อนาที

เมื่อมอเตอร์ทั้ง 4 ตำแหน่งทำงานร่วมกันจะทำกำลังสูงสุดถึง 611 แรงม้า (450 กิโลวัตต์) และเมื่อมอเตอร์และเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันMercedes-AMG ONE จะมีกำลังสูงสุดถึง 1,063 แรงม้า 782 กิโลวัตต์ ส่วนแรงบิดของรถทางเว็บไซต์Mercedes AMG แจ้งว่า “ไม่สามารถระบุข้อมูลจำเพาะได้เนื่องจากระบบขับเคลื่อนที่ซับซ้อน” ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ 7 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อAMG Performance 4MATIC+ ในส่วนของสมรรถนะ 2023Mercedes-Benz AMG One มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 2.9 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. 7 วินาที และอัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. 15.6 วินาที Top Speed 352 กม./ชม. เรียกได้ว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะที่น่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว

ยอดผลิต 275 คันทั่วโลก ราคา 2.72 ล้านเหรียญแถมจองหมดแล้ว 

สำหรับMercedes Benz AMG One ถูกเปิดจองไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยMercedes – AMG One ราคา อยู่ที่ 2.72 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 95,417,600 บาท และแน่นอนว่าจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 275 คันทั่วโลก ก็ทำให้สุดยอดไฮเปอร์คาร์จากMercedes-AMG คันนี้ถูกจองหมดแล้วเป็นที่เรียบร้อย 

นอกจากนี้ด้วยความพยายามในการออกแบบ และการพัฒนารถแข่งให้มาวิ่งบนท้องถนนได้นั้นตัวรถจึงจะมีโหมดในการขับขี่เฉพาะที่ให้เหมาะกับการขับขี่แบบทั่วไป และแน่นอนว่ายังพร้อมต่อการลงแข่งด้วย เพราะเมื่ออยู่ในโหมดสำหรับสนามแข่ง จากที่เราสังเกตจากคลิปการแข่งขันในรายการ 2022 Goodwood Festival of Speed ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตัวรถจะมีการกดต่ำลง และสปอยเลอร์หลังก็จะถูกเปิดออกมาพร้อม ๆ Moveable Slats ที่จะอยู่บริเวณแก้วด้านหน้าของรถทั้ง 2 ด้าน เรียกได้ว่าเป็นรถที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จริง ๆ 

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet

Categories
บทความทั่วไป

Need for Speed Heat ที่สุดแห่งเกมแข่งรถที่คุณไม่ควรพลาด

Need for Speed Heat การกลับมาอีกครั้งของแฟรนไชส์ need for speed ภาคใหม่ ที่คุณจะกลับมารักเกมนี้อีกครั้ง

Need for Speed Heat เกมภาคใหม่คืนฟอร์มอีกครั้ง

Need for Speed Heat

เกมNeed for Speed Heat ที่สุดแห่งเกมรถแข่งจากค่ายยักษ์ใหญ่ Electronic Arts Gothenburg ซึ่งภาคนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากที่หลาย ๆ คนเริ่มเบื่อหน่ายกับซีรีส์เกมนี้ รวมไปถึงในยุคช่วงหลัง ๆ มานี้มีเกมรถแข่งจำนวนมากออกมาและหลาย ๆ เกมก็มีคุณภาพที่ดีมากด้วย แฟรนไชส์เกมนี้จึงมีความกระท่อนกระแท่นอยู่บ้างในพักหลัง แต่ทว่าเกมภาคนี้เมื่อได้ปล่อยออกมาสู่ท้องตลาดเกมรถซิ่งแล้ว เรียกได้ว่าสามารถเรียกยอดแฟนคลับและสร้างเสียงชื่นชมได้อย่างล้นหลาม จนคุณจะไม่รู้สึกผิดหวังกับเกมนี้อย่างแน่นอน

เกมรถNeed for Speed Heat กับตำนานขับซิ่งหนีตำรวจ

เกมNeed for Speed Heat สำหรับภาคนี้ต้องยอมรับตามตรงว่าเนื้อเรื่องไม่ได้มีความใหม่อะไรมากนัก การเดินเรื่องยังคงธรรมดา ๆ แต่ก็ให้ความเพลิดเพลินดี Theme ของเกมภาคนี้จะใกล้เคียงกับหนังเรื่อง Fast and The Furious ที่จะพูดถึงเรื่องราวของมิตรภาพรวมไปถึงวงการตำรวจที่มีการคอรัปชั่น ก็ถือว่าเป็นอีกเสน่ห์ของภาคนี้ที่ทุกคนจะได้เห็นกัน แต่สำหรับไฮไลท์ที่ซีรีส์เกมนี้ทำออกมาได้ดีงามอย่างสม่ำเสมอคือระบบการ แต่งรถ ซึ่งภาคนี้จะมีตัวเลือกให้เราได้ออกแบบได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือภาคนี้คุณจะสามารถออกแบบตัวละครของคุณได้ด้วย ซึ่งการเก็บไอเทมเหล่านี้ก็ทำได้ไม่ยากมาก สำหรับใครที่ไม่ชอบการฟาร์มของนาน ๆ ก็น่าจะถูกใจกับเกมภาคนี้พอสมควรเลย

เกมNeed for Speed Heat เกมเพลย์สนุกไม่เปลี่ยนแปลง

เกมNeed for Speed Heat ระบบเกมเพลย์ของเกมซีรีส์นี้ก็ยังคงดุเดือดสุดมันส์เช่นเคย ในภาคนี้ก็ยังมีการขับหลบหนีตำรวจมากด้วยเช่นกัน โดยตัวเกมจะมีระดับ Heat Level ทั้งหมด 5 ระดับเพิ่มตามความรุนแรงที่เราได้ก่อเอาไว้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดถึงโมเมนต์การขับรถหนีตำรวจมาก ๆ แน่นอน ส่วนทางด้าน กราฟิกเกม ค่อนข้างฉูดฉาดกว่าหลาย ๆ ภาคที่เคยทำมา แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเท่มากขึ้น สมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การออกแบบผังเมืองก็มีขนาดใหญ่มาก ๆ ทำให้การขับรถเที่ยวในเมืองสนุกมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นภาคที่กลับมาคืนฟอร์มอันยิ่งใหญ่อีกครั้งของซีรีส์เกมนี้เลยจริง ๆ หากใครที่สนใจสามารถซื้อเล่นได้ที่ เพลย์สเตชัน 4 , เอกซ์บอกซ์วัน และ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/

Categories
บทความทั่วไป

พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ว! New Honda City 2023 ราคา 6 แสนต้น

New Honda City 2023

Honda City นับเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นของ Honda ที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน และล่าสุด New Honda City 2023 รุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวมาแล้วเรียบร้อย โดยราคาเริ่มต้นเบา ๆ ที่ 6 แสนต้น ๆ นับว่าเป็นรถที่เหมาะกับการเป็นรถยนต์คันแรกของใครหลายคนเป็นอย่างยิ่ง

สเปคของ New Honda City 2023 ผสาน 2 ขุมพลังที่ให้กำลังสูงสุด 126 แรงม้า

เปิดตัวแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Honda city 2023 เปิดตัว มาพร้อม 5 รุ่นย่อยได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์สันดาป City V, City SV และ City RS และ รุ่นไฮบริด City e:HEV SV และ City e:HEV RS โดยสเปคของรถยนต์ New Honda City 2023 ทั้ง 2 ประเภทมีดังนี้

เครื่องยนต์สำหรับ Honda City V, Honda City 2023 SV และ Honda City RS จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 3 สูบ 12 วาล์ว VTEC TURBO 988 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า 90 กิโลวัตต์ ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลัง CVT (Continuously Variable Transmission) 

สำหรับรุ่นไฮบริดอย่าง Honda City e:HEV SV และ City e:HEV RS จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1,498 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า 72 กิโลวัตต์ ที่ 5,600 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า 80 กิโลวัตต์ ที่ 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที และเมื่อทั้ง 2 แหล่งพลังงานทำงานผสานกันจะทำให้รถรุ่นนี้มีกำลังสูงสุด 126 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลัง E-CVT (Electrical Continuously Variable Transmission)

New Honda City2023 ราคา เริ่มต้นเพียง 629,000 บาท มีสีให้เลือกสูงถึง 7 สี

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า New Honda City 2023 เปิดตัวมาพร้อม 5 รุ่นย่อย โดยมี Honda City V เป็นรุ่นเริ่มต้น โดยมีราคาอยู่ที่ 629,000 บาท และราคา 679,000 บาท สำหรับรุ่น Honda City SV ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เหมาะกับบรรดานักศึกษาที่กำลังอยากได้รถไว้สำหรับเดินทางไปเรียนเป็นอย่างยิ่ง City RS ราคา 749,000 บาท Honda e:HEV SV 769,000 บาท และ Honda e:HEV RS รุ่นท้อปของซีรีส์นี้มีราคาเริ่มต้นที่ 839,000 บาท

นอกจากนี้สำหรับสีของตัวรถ Honda City 2023 มีสีให้เลือกสูงสุดถึง 7 สีด้วยกัน ได้แก่น้ำเงินออบซิเดียน (มุก, เพิ่ม 6,000 บาท), แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก), สีขาวแพลทินัม (มุก, เพิ่ม 10,000 บาท), ดำคริสตัล (มุก, เพิ่ม 6,000 บาท), เงินลูนาร์ (เมทัลลิก), เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และ ขาวทัฟเฟต้า ส่วนการตกแต่งภายในก็จะเป็นไปตามมาตรฐานของแต่ละรุ่น ซึ่งจะให้ความรู้สึกสปอร์ตที่ลงตัวเป็นอย่างยิ่ง

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/

Categories
บทความทั่วไป

Audi RS Q E-Tron E2 รถแข่งที่ Audi ส่งลุยศึก Dakar Rally

Audi RS Q E-Tron E2

Audi RS Q E-Tron E2 รถแข่ง Rally ที่ทางผู้พัฒนารถยนต์ชื่อดังอย่าง Audi ส่งเข้าแข่งขันในรายการแข่ง Rally ระดับโลกอย่าง Dakar Rally 2023 ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2565 – 15 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา และสำหรับ Audi RS Q E-Tron E2 เป็นรถที่พัฒนาต่อจาก Audi RS Q E-Tron ที่ทาง Audi ส่งเข้าในการแข่งในรายการดังกล่าวในปี 2022 ที่ผ่านมา และ Audi ก็ยังคงพัฒนา Audi RS Q E-Tron อย่างต่อเนื่องเพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน Dakar Rally 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ 

Audi RS Q E-Tron E2 รถแข่งที่ออกแบบมาให้พร้อมกับทุกสภาพของสนามแข่ง

สำหรับAudi RS Q e-tron นับว่าเป็นรถแข่งที่มีดีกรีที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เนื่องจากในเดือนมีนาคม 2022 ที่ผ่านมา Audi RS Q e-tronชนะการแข่งขันแรลลี่ในทะเลทรายครั้งแรกในอาบูดาบี ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทีมผู้พัฒนานำรถรุ่นนี้มาเป็นรถต้นแบบของAudi RS Q E-Tron E2 สำหรับการแข่งขัน Morocco Rally 2022 และ Dakar Rally 2023 

โดยAudi RS Q e-tron E2 Rally Car เป็นรถแข่งประเภท Rally Raid Vehicle ที่ถูกออกแบบมาให้พร้อมกับทุกสภาพของสนามการแข่งขัน เนื่องจากการแข่ง Dakar Rally จะเป็นการแข่งสุดหินที่จะต้องเจอทั้งภูเขาหิน ทะเลทราย และสภาพอากาศที่โหดร้าย ดังนั้นการออกแบบรถแข่งมาให้พร้อมรองรับกับทุกสถานการณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญAudi RS Q e-tron E2 จึงถูกผสานสองพลังเข้าด้วยกัน ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของAudi RS Q e-tron E2 ประกอบด้วยตัวแปลงพลังงานซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในและ Motor generator  (เครื่องกำเนิดไฟฟ้า/ ไดนาโม) 3 ตัว โดยเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ชนิดเดียวกับรถแข่งของAudi ในการแข่งขันในรายการ DTM 

สำหรับไดนาโมเป็นรุ่น Audi MGU05 ที่ใช้กับ Formula E ของ Audi โดยไดนาโมจะทำหน้าที่ในการชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะและการจัดการพลังงานจึงทำให้รถแข่งรุ่นนี้มี Top Speed ที่ 170 กม./ชม. ตามข้อบังคับ อัตราจาก 0 – 100 กม./ชม. น้อยกว่า 4.5 วินาที บนพื้นผิวเรียบ และที่สำคัญการไหลของอากาศที่ดีขึ้นยังทำให้รถมีสมรรถนะในการวิ่งที่ดีขึ้น แต่ใช้พลังงานที่พลังงานที่ลดลง 

RS Q E-Tron E2 ในการแข่งขัน Dakar Rally 2023 ที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่าในการแข่งขัน Abu Dhabi Desert Challenge 2022 Audi RS Q E-Tron E2จะพาทีมไปคว้าชัยชนะมาได้ รวมไปถึงในการแข่งขัน Dakar Rally 2022 ทีมนักแข่งAudi ทั้ง 3 ทีมยังสามารถชนะ 3 จาก 12 Stages ระหว่างการแข่งขันแรลลี่ 14 วัน โดยคว้าโพเดียมทั้งหมด 14 รายการ และหลังจากที่หลังจากเดินทางเป็นระยะทาง 8,400 กิโลเมตรในทะเลทราย Mattias Ekström และ Emil Bergkvist จบอันดับที่ 9 ใน Jeddah เมืองในซาอุดีอาระเบีย แต่สำหรับการแข่งขัน Dakar Rally 2023 กลับต่างกันออกไป เนื่องจากAudi RS Q e-tronทำคะแนนได้ทั้งหมด 14 โพเดียมใน 15 วันที่จัดงาน อีกทั้งระหว่างการแข่งขันยังเกิดอุบัติเหตุกับนักแข่งของAudi หลังครั้ง และจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 14 

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/

Categories
บทความทั่วไป

Mercedes-Benz Sprinter รถตู้คันใหญ่ 14 ที่นั่งที่ค่ายไหนก็ฆ่าไม่ตาย

Mercedes-Benz Sprinter

Mercedes-Benz Sprinter คือหนึ่งในรถตู้ตัวดังของ Benz ที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน โดย Sprinter ถูกเปิดตัวมาทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ รถตู้แบบทึบ, Sprinter รุ่นหัวเก๋งแชสซี และ รถตู้โดยสาร ที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ โดย Sprinter เป็นรถตู้ที่หลายคนนิยมนำไปแต่งให้ตอบโจทย์การใช้งาน แต่สำหรับการตกแต่งภายในแบบ Standard รถตู้รุ่นนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 14 ที่นั่งเลยทีเดียว

Mercedes-Benz Sprinter หลังคาสูง 2 เมตร ยืนในรถยังชิว ๆ 

Mercedes-Benz Sprinter รุ่นปี 2023 เปิดตัวมาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ Sprinter 419 Passenger Van และ Sprinter 416 CDI Business โดยทั้ง 2 รุ่นนอกจากจะมีสเปคของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันแล้ว อุปกรณ์ตกแต่งภายใน ภายนอก และ ระบบความปลอดภัย ยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย 

Sprinter 419 Passenger Van มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 4 วาล์วต่อสูบ เทอร์โบ 2,987 ซีซี แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า (140 กิโลวัตต์) ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน – เมตร ที่ 1,400-2,400 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังอัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) 

รถตู้เบนซ์ sprinter 416 CDI Business มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 2.1 ลิตร 4 สูบ 4 วาล์วต่อสูบ เทอร์โบ 2,143 ซีซี แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน – เมตร ที่ 1,400-2,400 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังอัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS)

โดยมิติภายนอกของ Benz Sprinter ทั้ง 2 รุ่นย่อย ( ฐานล้อ Standard / Business) มีขนาดภายนอกของตัวรถอยู่ที่ 2,020 / 5,932 / 2,708 มม. (ความกว้าง (ไม่รวมกระจกมองข้าง) / ยาว / สูง (ไม่รวมเครื่องปรับอากาศบนหลังคา) (มม.) ระยะฐานล้อ 3,665 มม. ซึ่งความสูงของรถในระดับนี้คนที่สูง 180 ซม. ก็ยังถือว่ายืนได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียว และความโอ่โถงของห้องโดยสารก็นับว่าเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของรถรุ่นนี้เลยก็ว่าได้

Mercedes-Benz Sprinter ราคาเริ่มต้นที่ 2,900,000 บาท ไม่รวมการตกแต่ง

Mercedes-Benz Sprinter

สำหรับ รถตู้เบนซ์ อย่าง Mercedes-Benz Sprinter ถึงแม้จะมี 2 รุ่นย่อยให้เลือกแต่สำหรับรุ่น Sprinter 419 Passenger Van ก็มีทั้งแบบ ฐานล้อ Standard หรือ Short และรุ่น Long ที่จะมีขนาดที่ยาวกว่าแต่มาในเครื่องยนต์สเปคเดียวกัน โดย Benz Sprinter 416 CDI ราคา เริ่มต้นที่ 3,790,000 บาท สำหรับรุ่น Short และ 3,900,000 บาท สำหรับ Sprinter 419CDI (Long Wheelbase) ซึ่งจะมาพร้อมที่นั่งสูงสุดถึง 14 ที่นั่ง และส่วน Sprinter 416 CDI Business ราคาจะเริ่มต้นเพียง 2,900,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งตัวรถยังมีสีให้เลือกถึง 10 สี โดยเป็นสีมาตรฐาน 5 สี ได้แก่ Arctic White, Jupiter Red, Blue-Grey (Lead-Free), Steel Blue และ Deep Black และแบบสีเมทาลิกอีก 5 สี ได้แก่ Iridium Silver, Obsidian Black, Cavansite Blue, Tenorite Gray และ Selenite Gray 

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/

Categories
บทความทั่วไป

E-Legend รถยนต์ไฟฟ้า 100% สไตล์เรโทร ราคา 890,000 ยูโรต่อคัน

E-Legend

E-Legend เป็นโปรโปรเจกต์รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาโดย ELEGEND AG บริษัทเทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Beilngries รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี โดยพวกเขามีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างยานพาหนะที่ไม่เหมือนใคร จนทำให้ได้รถรุ่นแรกออกมาที่มีชื่อว่า “EL1” และรถรุ่นดังกล่าวสนนราคาอยู่ที่คันละ 890,000 ยูโร หรือราว 34,307,061 บาทเลยทีเดียว

E-Legend รถที่ได้กำลังใจจาก Audi Sport Quattro สุดยอดรถแข่งในตำนานปี 1980

E-Legend

โดยปี 2018 ทางทีมได้เปิดตัว Peugeot E-Legend Concept ซึ่งเป็นคอนเซปต์คาร์ที่ทางทีมได้พัฒนาร่วมกันกับ Peugeot ภายใต้ไอเดียการนำเอาความคลาสสิกเข้ามาผสมผสานผกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย จากนั้นในปี 2021 ที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้าE-Legend EL1 ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งรถรุ่นนี้ทางทีมผู้พัฒนาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Audi Sport Quattro รถแข่ง Rally ที่โด่งดังในช่วงปี 1980 ดังนั้นจึงทำให้หลาย ๆ คนเรียกรถรุ่นนี้ว่าLegend Audi

รถยนต์ไฟฟ้าE-Legend มีขนาดของตัวถึงอยู่ที่ 4,155 / 1,910 / 1,270 มม. (ยาว / กว้าง / ความสูง (มม)) ระยะฐานล้อ 2445 มม. 2 ประตู 2 ที่นั่ง ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด 3 ตัว โดยจะถูกติดตั้งที่เพลาหน้า 1 ตัว กำลังไฟ 150kW และเพลาหลัง 2 ตัว ที่ให้กำลังไฟตัวละ 225kW และเมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวทำงานร่วมกัน รถรุ่นนี้จะมีกำลังสูงสุด 600 kW หรือ 816 แรงม้า แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์หน้า 500 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลัง 1100 นิวตันเมตรเลยทีเดียว พร้อมระบบส่งกำลังแบบ ESingle-gear Limited-slip ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) 

แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้า 800V พลังงานไฟฟ้า 90 kWh การชาร์จออนบอร์ด 22 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จแบบ DC Fast-Charging มากถึง 300 กิโลวัตต์ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และที่สำคัญ Performance ของรถรุ่นนี้ก็เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดย รถยนต์ไฟฟ้าE-Legend EL1 สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 300 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที หรือ 0-200 กม./ชม. ใน 8.5 วินาที และระยะทางการวิ่งตามมาตรฐาน WLTP คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 425 กิโลเมตรเลยทีเดียว

รถยนต์ไฟฟ้าE-Legend 2022 พัฒนาโดยสุดยอดทีมหัวกะทิ แถมผลิตเพียง 30 คัน 

รถยนต์ไฟฟ้าE-Legend เป็นรถยนต์ที่ถูกพัฒนาโดยทีมที่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ Marcus Holzinger ตำแหน่งผู้ก่อตั้ง ประธาน และหัวหน้าฝ่ายออกแบบ, Günther Riedl ตำแหน่ง Co-Founder และ Technical Direction, Manuel Egginger ตำแหน่ง Co-Founder, Fabian Strobl Co-Founder และ Marketing & Communication และ Marc Schefbauer ตำแหน่ง After Sales ที่สำคัญต้องบอกเลยว่าประวัติของพวกเขาแต่ละคนไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เช่น Marcus Holzinger ประธานบริษัทที่ในวัยเด็กเข้าเคยเข้าร่วมการแข่ง Rally และเซอร์กิตกับพ่อของเขาหลายต่อหลายครั้งจนทำให้เขากลายเป็นคนที่หลงใหลในความเร็ว อีกทั้งก่อนหน้าที่เข้าจะมาก่อตั้งเขายังเคยเป็นนักออกแบบ Volkswagen Design Wolfsburg และ กรรมการผู้จัดการที่ HOTE Studios บริษัทที่พ่อของเขาเป็นผู้ก่อตั้งอีกด้วย 

โดย Legend EL1 จะถูกผลิตขึ้นในช่วงปี 2022 โดยถูกกำหนดจำนวนการผลิตไว้ที่ 30 คันทั่วโลก และในส่วนของราคาก็เป็นไปตามที่เราแจ้งไว้ในข้างต้นคือคนละ 890,000 ยูโร หรือราว 34,307,061 บาท ซึ่งเมื่อดูสเปคโดยรวมของรถแล้วก็บอกเลยว่า รถรุ่นนี้เป็นซูเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่น่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่น ๆ >> BMW XM รถยนต์ SUV พันธุ์ดุ คันใหญ่ ผสานสองขุมพลัง

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/