เดือน: มิถุนายน 2023

รถยนต์อเนกประสงค์ นับว่าเป็นรถยนต์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นจึงทำให้แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์หลาย ๆ พัฒนารถยนต์ประเภทนี้ออกมาเรื่อย ๆ และล่าสุดกับ Volvo EX90 รถยนต์สไตล์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% 7 ที่นั่ง ที่คาดว่าทาง Volvo น่าจะส่งมอบรถให้ผู้ที่สั่งจองภายในปี 2024 ที่จะถึงนี้

สเปคอย่างเป็นทางการของ Volvo EX90 สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา

สำหรับสเปคของVolvo EX90 ที่เปิดเผยของมูลอย่างเป็นทางการออกมาบนเว็บไซต์Volvo US รถรุ่นนี้จะเป็น รถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ที่มีขนาดของตัวถึงอยู่ที่ 77.3 x 68.7 x 198.3 (กว้าง x สูง x ยาว (นิ้ว)) ความจุสัมภาระมากถึง 1,900 กว่าลิตร และถึงแม้ว่ารถรุ่นนี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ก็สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 496 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่งจาก 0 – 60 ไมล์ / ชม. ใน 4.7 วินาที ความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 111 kWh และเมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง 2024Volvo EX90 จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 300 ไมล์เลยทีเดียว (482 กิโลเมตร) อีกทั้งในกรณีที่ชาร์จด้วยระบบ fast charge ด้วยนวัตกรรมของ รถยนต์Volvo จึงให้คุณสามารถชาร์จจาก 10-80% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ รถยนต์Volvo EX90 EV ยังมาพร้อมระบบความบันเทิงคุณภาพเสียงระดับดีเยี่ยมจากแบรนด์ Bowers & Wilkins แบรนด์เครื่องเสียงคุณภาพไฮเอนด์จากอังกฤษ Volvo EX90มอบประสบการณ์เสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง 3 มิติที่ไม่เหมือนใคร และด้วยเทคโนโลยี Lidar และ Safe Space ซึ่งเป็นชุดเซ็นเซอร์ภายนอกมาตรฐานขั้นสูงพร้อมเรดาร์ กล้อง และเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกอยู่ในVolvo EX90 เสริมด้วย Lidar ที่สแกนสภาพแวดล้อมด้านหน้าของรถอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สามารถประเมินรูปร่างและขนาดของวัตถุได้อย่างแม่นยำในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมแบบ 3D 

ชาวสหรัฐเป็นเจ้าของได้ก่อนใครเพียงวางเงินมัดจำ 500$ 

สำหรับเพื่อน ๆ ชาวไทยที่กำลังรอรถรุ่นนี้แล้วอยากทราบว่า รถยนต์Volvo EX90เปิดขายในไทยเมื่อไหร่ จริง ๆ แล้วสำหรับกำหนดการอย่างเป็นทางการยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าVolvo EX90น่าจะเปิดตัวอย่างในไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2023 นี้ แต่สำหรับในสหรัฐอเมริกาได้สิทธิจอง new Volvo EX90ก่อนใครด้วยการวางเงินมัดจำเพียง 500$ และคาดว่าจะส่งมอบรถให้กับผู้สั่งจองภายในปี 2024 นอกจากนี้ในส่วนของราคาคาดว่าน่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 80,000$ หรือราว ๆ 2,738,400 บาท อีกทั้งสีตัวรถยังมีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ Denim Blue, Sand Dune, Crystal White, Onyx Black, Platinum Grey, Silver Dawn และ Vapour Grey ซึ่งเป็นสีที่บ่งบอกถึงความเป็นVolvo ได้เป็นอย่างดี 

อ่านบทความอื่น ๆ >> Mazda MX-5 รถสปอร์ต Mazda ที่กาลเวลาทำอะไรเขาไม่ได้

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

หากกล่าวถึง รถสปอร์ต Mazda หลายคนคงต้องนึกถึง Mazda MX-5 อย่างแน่นอน เนื่องจากรถรุ่นนี้คือรถสปอร์ตรุ่นเดียวที่ Mazda พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดย Mazda MX-5 Roadster รุ่นแรกเริ่มต้นการพัฒนาในปี 1987 และเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอีก 2 ปีถัดมาคือ ปี 1989 และสำหรับปี 2023 นี้ Mazda MX-5 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกเปิดตัวมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่เพื่อให้สัมผัสสุดพิเศษกับคุณ และนี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกว่า MX-5 เป็นรถสปอร์ตที่กาลเวลาทำอะไรเขาไม่ได้จริง ๆ 

เปิดสเปค MX-5 รถสปอร์ต Mazda รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 L

Mazda MX-5 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวมาพร้อม 2 รุ่นย่อยได้แก่ Mazda MX-5 2.0 RF 6MT และ Mazda MX-5 2.0 RF โดย RF ย่อมาจาก Retractable Fastback ซึ่ง รถสปอร์ต Mazda ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactive – G 2.0 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,998 ซีซี ที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า (135 กิโลวัตต์) ที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน – เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 6 สปีด Skyactive – MT (สำหรับรุ่น 2.0 RF 6MT) และ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (Activematic) (สำหรับรุ่น 2.0 RF)

Mazda MX-5 2023 ถูกตกแต่งด้วยดีไซน์ที่มีทั้งความหรูหรา และความเท่ที่ลงตัวตามสไตล์ของมาสด้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของไฟหน้า LED 4 ดวง ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของไฟท้ายแบบรูปตัว U ไฟเบรคแบบกลมที่มีดีไซน์เดียวกับรุ่นปี 2021 และล้ออะลูมิเนียมขนาด 17 นิ้ว อีกทั้งในส่วนของการตกแต่งภายใน รถมาสด้าสปอร์ต MX 5 มาพร้อมเบาะหนังแบบเจาะรูที่ให้รูปลักษณ์และสัมผัสที่สปอร์ตยิ่งขึ้น 

อีกทั้งการเจาะรูของเบาะยังช่วยให้ดูดซับเสียงได้ดีขึ้น พร้อมระบบ Mazda Connect ที่จะทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ MX – 5 ถูกติดตั้งลำโพงคุณภาพจาก Bose 9 ตำแหน่ง รวมถึงลำโพงคู่ที่พนักพิงศีรษะทั้งคนขับและผู้โดยสาร เพื่อมอบคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมแม้ในขณะขับขี่โดยเปิดประทุน

Mazda สปอร์ต 2 ประตู เปิดตัวในไทยพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 2,912,000 บาท 

สำหรับ รถสปอร์ต Mazda รุ่นที่เราพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ ปัจจุบันเปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีสีตัวรถให้เลือกทั้งหมด 7 สีได้แก่ Soul Red Crystal, Machine Gray, Snowflake White Pearl, Jet Black, Deep Crystal Blue, Platinum Quartz และ Zircon Sand และในส่วนของราคาทั้ง 2 รุ่นย่อยจะมีราคาเริ่มต้นเดียวกัน โดย มาสด้าสปอร์ต ราคา ปี 2023 เริ่มต้นที่ 2,912,000 บาท

นอกจากนี้ทาง Mazda ยังมีชุดแต่งทั้งภายใน ภายนอก แชสซี และอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณเลือกตกแต่งรถคันโปรดของคุณในราคาที่น่ารักไม่แพ้ราคาตัวรถ ดังนั้นใครที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้ก็สามารถติดต่อสอบถามไปยังศูนย์บริการของ Mazda ได้ทุกสามารถทั่วประเทศ 

อ่านบทความอื่น ๆ >> ประวัติ Maserati สุดยอดรถยนต์จากอิตาลี กับสุดยอดการเดินทางกว่า 109 ปี

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี

หากกล่าวถึง Maserati เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องรู้จักชื่อนี้ในนามแบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงจากอิตาลี แต่เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่า ประวัติ Maserati หรือความเป็นมาของแบรนด์นี้เป็นอย่างไร และชื่อแบรนด์ Maserati ได้มาอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแบรนด์นี้มากขึ้นผ่านช่วงเวลาที่สำคัญของแบรนด์

เส้นทางการเริ่มต้น ประวัติ Maserati กับการหลงใหลความเร็วของพี่น้องตระกลู Maserati

เรื่องราวของ Maserati เริ่มต้นจาก คุณ Rodolfo Maserati ซึ่งเป็นคุณพ่อที่ประกอบอาชีพพนักงานรถไฟ และ Carolina Losi ภรรยาของเขา โดยพวกเขาทั้ง 2 มีลูกด้วยกันทั้งหมด 7 คน และลูก ๆ จาก 4 ใน 7 คนก็กลายมาเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์รถระดับโลกอย่าง Maserati ที่เรารู้จักกันในวันนี้

โดยประวัติ Maserati เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 1914 จากการร่วมมือกันของ Alfieri, Ettore และ Ernesto 3 พี่น้องด้วยการเปิดร้านซ่อมรถ (car workshop) ที่มีชื่อว่า “Società Anonima Officine Alfieri Maserati” ในเมืองโบโลญญา ของอิตาลี แต่ห้าเดือนต่อมาทั่วโลกรวมไปถึงอิตาลีก็ตกอยู่ในสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 1 ร้านของเขาได้กลายเป็นส่วนให้ของกองทัพ

กระทั่งในช่วงฤดูหนาวของปี 1926 Alfieri, Ernesto และ Ettore พวกเขาพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะพัฒนา รถคันแรกของมาเซราติ ในชื่อ Tipo 26 พร้อมกับการเปิดตัวโลโก้อันทรงพลังอย่าง “Trident” จากผลงานการออกแบบของลูกคนที่ 4 ของครอบครัวอย่าง Bindo Maserati และเขาก็กลายมาเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งของแบรนด์ 

28 กันยายน 1929 ในเมืองเครโมนา ประเทศอิตาลี Baconin Borzacchini เป็นนักแข่งรถชาวอิตาลี สร้างสถิติโลกใหม่ในรายการ Class C ด้วยการใช้ รถมาเซราติ Tipo 26 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V4 16 สูบ ด้วยสถิติ 10 กิโลเมตรด้วยความเร็ว 246.069 กม./ชม. ที่สำคัญบันทึกนี้คงอยู่จนถึงปี 1937 ก่อนที่จะมีเจ้าสังเวียนคนใหม่มาทุบสถิติ 

ในปี 1963 Quattroporte รถยนต์ส่วนบุคคลคันแรกเปิดตัวที่งาน Turin Motor Show ซึ่งเป็นรถสปอร์ตซีดานสุดหรู และเพียง 3 ปีต่อจากนั้น Ghibli คันแรกที่ออกแบบโดย Giorgetto Giugiaro ก็ได้เปิดตัวในงาน Turin Motor Show เช่นเดียวกัน

Maserati MC12 ทุบสถิติ Maserati แพงที่สุด 

จากประวัติ Maserati จะเห็นได้ว่า มาเซราติ เป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นจากแพชชั่นของผู้ก่อตั้งอย่างเต็มเปี่ยม ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมรถแต่ละรุ่นที่ถูกผลิตออกมาจะเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์ ซึ่งปัจจุบัน Maserati นอกจากนี้ผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลออกมาหลายต่อหลายรุ่นแล้ว แบรนด์ยังมีการผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงออกมาอยู่เรื่อย ๆ และ Maserati MC12 ซึ่งเป็นรถแข่งที่ถูกเปิดตัวในปี 2004 และว่ากันว่าปัจจุบันรถคันนี้น่าจะมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 4,000,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 137,200,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่น ๆ >> Ford Model T รถคันแรกของ Ford กับตำนานกว่า 114 ปี

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี

Bentley รถยนต์สัญชาติอังกฤษสุดหรู ที่ผลิตรถยนต์ระดับไฮเอนด์และของยกให้เป็นที่สุดของทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ และ ดีไซน์ และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัว New Bentayga Extended Wheelbase Azure Bentley SUV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมสุดยอดเครื่องยนต์ V8 ที่ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า พร้อมการตกแต่งสุด Luxury ตามฉบับของแบรนด์ 

เปิดสเปค Bentley SUV รุ่น Bentayga Extended Wheelbase EWB Azure 2023

Bentley SUVที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสเปคของเขาในวันนี้คือ New Bentayga Extended Wheelbase Azure โดยเป็น SUV รุ่นใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดให้จองไปเมื่อต้อนปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งBentley Bentayga SUVรุ่นนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 อันทรงพลัง ขนาด 4.0 ลิตร (3996 ซีซี) ที่ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที และมีอัตราการเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที (0-100 กม./ชม. ใน 4.6 วินาที) และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 180 ไมล์/ชม. (290 กม.)

ในส่วนของขนาดตัวถัง รถ Bentley รุ่นนี้มาพร้อมความยาวรวม 208.9 นิ้ว ความกว้างของกระจก 87.48 นิ้ว ความสูงโดยรวม 68.46 นิ้ว และระยะฐานล้อ 125.0 นิ้ว บวกกับหลังคาที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบ Sunroof ขนาดใหญ่ ที่ยาวต่อเนื่องตั้งแต่ห้องโดยสารด้านหน้าไปถึงด้านหลัง ดังนั้นผู้ที่โดยสารอยู่ภายในจึงจะสัมผัสได้ถึงความโอ่โถงของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ในส่วนของห้องโดยสารด้านหน้า เบาะนั่งทั้งของคนขับ และข้างคนขับถูกเพิ่มฟังก์ชันการทำความร้อน การระบายอากาศ การนวดจะทำงานควบคู่ไปกับพนักพิงศีรษะเพื่อความสบาย และการปรับไฟฟ้า 20 ทิศทาง ภายในห้องโดยสารจะถูกติดตั้งระบบไฟสร้างบรรยากาศ และระบบสร้างประจุไอออนในอากาศซึ่งจะช่วยให้อากาศภายในห้องโดยสารสะอาดมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญออปชั่นด้านหลังยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมของ Bentley ที่ช่วยให้ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังสามารถสตรีมเนื้อหาจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยังหน้าจอขนาด 10.1 นิ้วที่ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง หรือด้านหลังของเบาะผู้โดยสารด้านหน้า อีกทั้งห้องโดยสารด้านหลังยังออกแบบให้คุณได้สัมผัสกับความสบายเหมือนกำลังบินอยู่เลยทีเดียว

รถBentley SUV ราคา เริ่มต้นที่ราว ๆ เริ่มต้น 22,600,000 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับBentley SUV รุ่นที่เราพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ ถูกเปิดให้จองไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และในส่วนของราคาจะขึ้นอยู่กับการตกแต่งและออปชั่นต่าง ๆ แต่สำหรับBentley Bentayga ราคาในไทย ที่เป็นการนำเข้าทั้งคันจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 22,600,000 บาท และสำหรับในไทย AAS Auto Service ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของไทยเปิดให้จองแล้ววันนี้

อ่านบทความอื่น ๆ >> Ford Model T รถคันแรกของ Ford กับตำนานกว่า 114 ปี

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี

BMW i4 M50 รถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ที่ผสานนวัตกรรมความแรงของ BMW M กับ BMW i เข้ามาไว้ในรถยนต์สุดเท่คันนี้ โดย BMW i4 M50 ถูกเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังถูกนำเข้าไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย 

BMW i4 M50 รถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าจากตระกูล i4 

รถBMW i4 รถยนต์สปอร์ตคูเป้พลังงานไฟฟ้าที่เปิดตัวมาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่BMW i4 eDrive40 M Sport และBMW i4 M50 ซึ่งจัดว่าเป็นรุ่นท้อปของซีรีส์นี้ อีกทั้งยังมาพร้อมสุดยอดขุมพลังจึงทำให้รถรุ่นนี้มีกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 544 แรงม้าเลยทีเดียว

โดย 2023 รถBMW i4 m50 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าBMW M eDrive จำนวน 2 ตัวที่จะถูกติดตั้งยู่ที่บริเวณเพลาหน้า และหลังจึงทำสามารถรีดพละกำลังสูงสุดได้ถึง 544 แรงม้า 400 กิโลวัตต์ แรงบิด 795 นิวตันเมตร Top Speed 225 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที และในส่วนของแบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียม-ไอออน (Lithium-ion) ที่มีความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 83.9 kWh ระยะทางขับเคลื่อน มาตรฐาน NEDC สูงสุดถึง 465 กิโลเมตร และมาตรฐาน WLTP สูงสุด 521 กิโลเมตรเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ถึงแม้ว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นรถยนต์แกรนด์คูเป้ 4 ประตู ซึ่งจะมีดีไซน์ที่เหมือนกับถอดแบบมาจากBMW Series 4 Coupe แต่ถึงอย่างนั้นในส่วนของห้องโดยสารด้านหลังก็ยังจะมีความโอ่โถงมากกว่ารถคูเป้ แบบ 2 ประตูอยู่พอสมควร โดย รถBMW i4 M50 มีขนาดของตัวรถอยู่ที่ 4,783 / 1,852 / 1,448 มม. (ความยาว/ความกว้าง/ความสูง) อีกทั้งภายในยังถูกตกแต่งให้มีความสปอร์ตที่ถูกผสานเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว ด้วยเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ M Sport ปรับไฟฟ้า พนักพิงหลังปรับความกว้างได้ พร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ 

คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ฟังก์ชันช่วยการจัดเก็บสัมภาระ ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทางจากแบรนด์ Harman Kardon ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ (lconic sounds electric) ระบบเชื่อมต่อ Smartphone และที่สำคัญยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือส่วนตัวอย่าง BMW Intelligent Personal Assistant ที่จะทำงานร่วมกับระบบ Apple CarPlay ซึ่งจะแสดงขึ้นบน BMW Curved Display หน้าจอกลางระบบสัมผัสรูปแบบใหม่ โดยจะนวัตกรรมการบริการของ Connected Charging ที่จะช่วยให้คุณทราบจุดชาร์จแบตเตอรี่แต่ละจุดบนเส้นทางที่คุณจะใช้ในการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องเดินทางไกล

รถBMW i4 M50 ราคา ในไทย 2023 เริ่มต้นที่ 4,989,000 บาท 

สำหรับปี 2023 ราคาของ รถBMW i4 M50 ถูกลงกว่ารุ่นปี 2022 ราว ๆ 10,000 บาท จึงทำให้ รถBMW i4 ราคา ในไทย รุ่นท้อปนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 4,989,000 บาท อีกทั้งยังมีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Black Sapphire, Mineral White, M Brooklyn Grey metallic และ Individual Frozen Portimao Blue metallic พร้อมล้อ  อัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี ซึ่งจะไม่มีการบวกราคาเพิ่มแต่อย่างใด ดังนั้นคุณจึงสามารถตกแต่งทั้งภายในและภายนอกได้อย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก

อ่านบทความอื่น ๆ >> Ford Model T รถคันแรกของ Ford กับตำนานกว่า 114 ปี

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี