Bentley รถยนต์สัญชาติอังกฤษสุดหรู ที่ผลิตรถยนต์ระดับไฮเอนด์และของยกให้เป็นที่สุดของทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ และ ดีไซน์ และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัว New Bentayga Extended Wheelbase Azure Bentley SUV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมสุดยอดเครื่องยนต์ V8 ที่ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า พร้อมการตกแต่งสุด Luxury ตามฉบับของแบรนด์ 

เปิดสเปค Bentley SUV รุ่น Bentayga Extended Wheelbase EWB Azure 2023

Bentley SUVที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสเปคของเขาในวันนี้คือ New Bentayga Extended Wheelbase Azure โดยเป็น SUV รุ่นใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดให้จองไปเมื่อต้อนปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งBentley Bentayga SUVรุ่นนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 อันทรงพลัง ขนาด 4.0 ลิตร (3996 ซีซี) ที่ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที และมีอัตราการเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที (0-100 กม./ชม. ใน 4.6 วินาที) และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 180 ไมล์/ชม. (290 กม.)

ในส่วนของขนาดตัวถัง รถ Bentley รุ่นนี้มาพร้อมความยาวรวม 208.9 นิ้ว ความกว้างของกระจก 87.48 นิ้ว ความสูงโดยรวม 68.46 นิ้ว และระยะฐานล้อ 125.0 นิ้ว บวกกับหลังคาที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบ Sunroof ขนาดใหญ่ ที่ยาวต่อเนื่องตั้งแต่ห้องโดยสารด้านหน้าไปถึงด้านหลัง ดังนั้นผู้ที่โดยสารอยู่ภายในจึงจะสัมผัสได้ถึงความโอ่โถงของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ในส่วนของห้องโดยสารด้านหน้า เบาะนั่งทั้งของคนขับ และข้างคนขับถูกเพิ่มฟังก์ชันการทำความร้อน การระบายอากาศ การนวดจะทำงานควบคู่ไปกับพนักพิงศีรษะเพื่อความสบาย และการปรับไฟฟ้า 20 ทิศทาง ภายในห้องโดยสารจะถูกติดตั้งระบบไฟสร้างบรรยากาศ และระบบสร้างประจุไอออนในอากาศซึ่งจะช่วยให้อากาศภายในห้องโดยสารสะอาดมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญออปชั่นด้านหลังยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมของ Bentley ที่ช่วยให้ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังสามารถสตรีมเนื้อหาจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยังหน้าจอขนาด 10.1 นิ้วที่ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง หรือด้านหลังของเบาะผู้โดยสารด้านหน้า อีกทั้งห้องโดยสารด้านหลังยังออกแบบให้คุณได้สัมผัสกับความสบายเหมือนกำลังบินอยู่เลยทีเดียว

รถBentley SUV ราคา เริ่มต้นที่ราว ๆ เริ่มต้น 22,600,000 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับBentley SUV รุ่นที่เราพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ ถูกเปิดให้จองไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และในส่วนของราคาจะขึ้นอยู่กับการตกแต่งและออปชั่นต่าง ๆ แต่สำหรับBentley Bentayga ราคาในไทย ที่เป็นการนำเข้าทั้งคันจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 22,600,000 บาท และสำหรับในไทย AAS Auto Service ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของไทยเปิดให้จองแล้ววันนี้

อ่านบทความอื่น ๆ >> Ford Model T รถคันแรกของ Ford กับตำนานกว่า 114 ปี

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี

Tesla นับว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าเข้ามาปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายมาเป็นที่สนใจของผู้คนเพียงใช้ระยะเวลาไม่นาน และทันที Tesla ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของเขาออกมาก็กลายเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างยิ่ง และทำให้แบรนด์รถยนต์ชั้นนำหลาย ๆ แบรนด์ก็ไม่พลาดที่จะปล่อยของออกมาเช่นกัน และล่าสุดกับ Tesla Model 3 ที่มีข้อมูลว่าในช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมายอดของการจำหน่ายรถรุ่นสูงถึงหลักล้านคันเลยทีเดียว และล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ก็เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย และเราก็ไม่พลาดที่จะนำสเปคของรถรุ่นนี้มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย

เปิดสเปคของ Tesla Model 3 รุ่น Performance ตัวท๊อปของ Model 3

สำหรับTesla Model 3 นั้นได้มีการเปิดตัวรถรุ่นย่อยออกมาทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกันได้แก่ Standard, Long Range และ Performance ซึ่งรุ่นที่เราจะนำมารีวิวให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จักกันในวันนี้คือรุ่นTesla Model 3 Performance ซึ่งจะเรียกว่าเป็นรุ่นท็อปของ Model 3 เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้สำหรับใครที่สงสัยว่ารุ่น long range กับ performance ต่างกันอย่างไร หรือ กี่แรงม้า วันนี้เราได้หาคำตอบเหล่านั้นมาให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว

เครื่องยนต์ / มอเตอร์

Tesla Model 3 ใช้มอเตอร์แบบ Synchronous กระแสสลับ 2 มอเตอร์ ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 562 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตันเมตร และมีอัตราเร่งจาก 0 – 60 ไมล์/ชม. อยู่ที่3.1 วินาที ที่สำคัญยังสามารถทำความเร็วสูงสุด 261 กม./ชม. เลยทีเดียว ซึ่งรุ่น Long Range ก็ให้ มอเตอร์แบบ Synchronous กระแสสลับ 2 มอเตอร์มาเช่นกัน แต่ในส่วนของอัตราเร่ง แรงม้า หรือความเร็วสูงสุดจะต่ำกว่ารุ่น Performance เล็กน้อยนั่นเอง

แบตเตอรี่

ในส่วนของแบตเตอรี่รุ่นนี้ ใช้แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งคุณสมบัติที่ดีของแบตเตอรี่ประเภทนี้คือ การจ่ายไฟที่แรง และคงที่อยู่ตลอดเวลา แม้ไฟในแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็ตาม ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นรถไฟฟ้าจากอีกหลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้แบตประเภทนี้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) ยังสามารถวิ่งได้ไกลถึง 547 กิโลเมตร เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของรถรุ่นนี้ยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่ทำให้Tesla ขึ้นมาเป็นแบรนด์รถยนต์ และนวัตกรรมแถวหน้าได้นั้นไม่ใช้เพียงแค่เขาสามารถออกแบบและประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงม้าสูง และดีไซน์สวยเท่านั้น แต่ความน่าสนใจของรถTesla ทุก ๆ รุ่นคือนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีในสินค้าของพวกเขา ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าในTesla Model 3 ก็ให้มาอย่างครบครัน ทั้งเรื่องของมตราฐานความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมากมาย

ราคาของ Model 3 อย่างไม่เป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายในเมืองไทย

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของTesla Model 3 แต่ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับราคาของรถรุ่นนี้ ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าTesla ไม่ได้ทำการตลาดในไทยโดยตรงดังนั้นหากใครที่อยากเป็นเจ้าของจึงจำเป็นต้องซื้อผ่านผู้นำเข้าอิสระซึ่งส่วนใหญ่จะนำเข้าจาก 2 ประเทศหลัก ๆ ได้แก่อังกฤษ และ ฮ่องกง ซึ่งจะทำให้มีเรทราคาที่แตกต่างกันออกไป 

ดังนั้น ราคา ในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ราว ๆ 1,590,000 บาท สำหรับ รุ่น Standard, 1,890,000 บาท สำหรับ รุ่น Long Range และ รุ่น Performance ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,150,000 บาท แต่สำหรับtesla model 3 ราคาในไทย 2022 หากเป็นรุ่น Performance จะอยู่ที่ราว ๆ 4,xxx,xxx บาทเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่น ๆ >> Mercedes-Maybach GLS รถยนต์ SUV 4 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Benz

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ เว็บพนันออนไลน์ มั่นคงปลอดภัย มั่นใจซื่อตรง เปิดบริการแล้วครบจบในที่เดียว

Mercedes-Maybach GLS เป็นรถยนต์ SUV รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mercedes-Benz และถึงแม้ว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นรถ SUV ที่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง แต่ด้วยความต้องการให้รถรุ่นนี้มาพร้อมหรู ดูดี คลาสสิก และ นั่งสบายแบบสุด ๆ ทาง Mercedes-Benz จึงได้ออกแบบรถยนต์รุ่นนี้ให้มีเพียง 4 ที่นั่งเท่านั้น และที่สำคัญดูเหมือนว่า เจ้าของอาจจะอยากเป็นคนนั่งหลังมากกว่าการขับด้วยตัวเอง

Mercedes-Maybach GLS มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 และเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครัน

Mercedes-MaybachGLSเป็นรถยนต์ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 โดย Mercedes-Maybach GLS 600 นับว่าเป็น SUV ระดับ Ultra Luxury ที่ถูกพัฒนาโดย Mercedes-Maybach ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Mercedes-Benz ซึ่งรถยนต์ที่ออกแบบและพัฒนาภายใต้แบรนด์Mercedes-Maybach จะมีการเชื่อมโยงนวัตกรรมของ Mercedes-Benz เข้ากับความหรูหราที่ไม่เหมือนใครของ Maybach ดังนั้นจึงทำให้ New Mercedes-Maybach GLS รุ่นนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร 

โดย Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 Bi-turbo พร้้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3,982 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 557 แรงม้า (410 กิโลวัตต์) ให้แรงบิด 730 นิวตันเมตร ที่ 2,500-5,000 รอบต่อนาที กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 16 กิโลวัตต์ 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 250 นิิวตัันเมตร อัตตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 4.9 วินาที ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และที่สำคัญอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อใช้งานแบบผสมอยู่ที่ 12 ลิตร/100 กม. 

ดีไซน์ภายในและสิ่งอำนวยความสำดวก ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า รถยนต์รุ่นนี้มีการดีไซน์ภายใน และการตกแต่งที่หรู สวย และดูดีเป็นอย่างยิ่ง โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบ 4 หรือ 5 ที่นั่ง ซึ่งรถยนต์แบบ 4 ที่นั่งจะมีคอนโซลกลางยาวตั้งแต่ข้างหน้ายาวจนมาถึงห้องผู้โดยสารด้านหลัง และมาพร้อมเบาะผู้โดยสารแบบ Climatised seats และ heated seats สำหรัับที่่นั่งแถวที่่ 1 และ 2 เบาะทั้ง 2 คู่เป็นแบบ multi-contour พร้้อมฟังก์์ชัันนวด เบาะที่่นั่งผู้้โดยสารตอนหน้้าปรัับด้วยระบบไฟฟ้าพร้้อมปุ่่มควบคุมจากที่่นั่งแถวที่่ 2 มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ที่สำคัฐเบาะคู่หลังมาพร้อมที่วางขา และยังสามารถปรับเอนได้ถึง 43.5 องศาเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมาพร้อมปลั๊กไฟ 230 โวล์ทสำหรับอุุปกรณ์ไฟฟ้าไม่เกิน 150 วัตต์์ บริเวณคอนโซลกลางที่่นั่งด้านหลัง ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay และ Android Auto, หูฟังแบบไร้สาย 2 ชุุด สำหรัับผู้โดยสารด้้านหลััง, ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่่อเกิดอุบัติเหตุุ และ ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ Mercedes-Benz User Experience (MBUX) พร้อมจอแสดงผลแบบ Full HD ในห้องผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง เป็นต้น

Mercedes – Maybach ราคา เริ่มต้นเพียง 18.5 ล้านบาท

Mercedes-Maybach GLSเปิดตัวมาพร้อมราคา 18,500,000 บาท (รวมภาษี 7% แล้ว) ซึ่งหากใครที่ได้ดูสเปค และข้อมูลต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากในข้างต้นก็คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ในราคาเปิดตัวมาในหลักเกือบ 20 ล้านบาทก็คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลพอสมควร หรือหากใครรู้สึกว่ารายละเอียดและสเปคคร่าว ๆ ในข้างต้นอาจจะยังไม่พอ เราต้องขอบอกว่าGLSMaybach รุ่นนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่ในการอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ที่่วางแก้วน้ำพร้อมระบบรักษาอุุณหภูมิแบบร้อน และ เย็็น สำหรัับที่่นั่งด้านหลัง, ม่านบังแดด 2 ชั้นแบบ Double sunblind ทั้งฝั่งซ้ายและขวา, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester surround sound system ด้วยลำโพง 13 ตัว เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในของห้องโดยสาร คุณยังสามารถเลือกการตกแต่งส่วนต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง ทั้งสีของเบาะ, ชนิดของหนัง, วัสดุในการตกแต่งห้องโดยสาร รวมไปถึงสีของตัวรถที่เองสามารถเลือกได้แบบสีเดียวทั้งคัน และ ทูโทน เป็นต้น ที่สำคัญสีทูโทน high-tech silver / nautical blue ยังเป็นเฉดสีพิเศษที่มีชื่อรุ่นว่า Maybach Edition 100 ที่ทาง Mercedes-Maybach ผลิตออกมาเพื่อเป็นการฉลอง 100 ปี ของMercedes-Maybach โดยผลิตออกมาเพียง 100 คันทั่วโลกเท่านั้น ดังนั้น Mercedes – Maybach GLS600 MATIC นับว่าเป็นรถ SUV สุด Luxury และหายากที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้

อ่านบทความอื่น ๆ >> Easykart.net ที่สุดของ สนามโกคาร์ท เปิดให้บริการถึง 3 สาขา

สนับสนุนโดย : https://hilospec.com/ ไฮโลไทย ฝาก-ถอน ไม่มีขั้นต่ำ แทงไฮโลพื้นบ้าน เบทเริ่มต้น 5 บาท

โกคาร์ท นับว่าเป็นหนี่งกีฬาความเร็วที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และเหล่านักกีฬาแข่งรถชื่อดังส่วนใหญ่มักจะผ่านการประชันฝีมือบนสนามโกคาร์ทมาแล้วแทบทุกคน และวันนี้เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ Easykart.net ที่สุดของ สนามโกคาร์ท ที่เปิดให้บริการมากถึง 3 สาขาทั่วประเทศไทย และที่สำคัญนอกจาก Easykart.net จะมีสนามสำหรับใช้ในการขับขี่และแข่งขันรถโกคาร์ทแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับกีฬาเอกสตรีม Outdoor อีก 2 ประเภท ได้แก่ Skydiving และ Surf เรียกได้ว่าเป็นสนามที่ครบครันเป็นอย่างยิ่ง

Easykart.net สนามโกคาร์ท ที่เปิดให้บริการมามากกว่า 18 ปี

สำหรับ Easykart.net เป็น สนามโกคาร์ท ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2004 โดยให้บริการที่สาขา RCA กรุงเทพมหานคร เป็นสาขาแรก ซึ่ง สนามโกคาร์ท กรุงเทพมหานคร แห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในสนามโกคาร์ทในร่มอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับมาตรฐาน และนับว่าเป็นสนามโกคาร์ทในร่มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ที่สำคัญยังเป็นสนามที่เหมาะกับการทำกิจกรรมครอบครัวที่สุด เนื่องจากสนามแห่งนี้มีพื้นที่ปรับอากาศเพื่อให้ผ่อนคลาย และนั่งชมครอบครัว หรือ เพื่อน ๆ ของคุณกำลังแข่งกันในสนาม อีกทั้งยังมีบาร์เครื่องดื่มและอาหารให้บริการ หรือจะเช่าพื้นที่ในการจัดงานฉลอง เช่น จัดงานเลี้ยงเด็ก, งานจบการศึกษา หรือ งานวันเกิดก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ Easykart กรุงเทพฯ จะมีรถโกคาร์ทให้เลือกถึง 3 ขนาด ได้แก่ 160 ซีซี สำหรับผู้ใหญ่, 120 ซีซี สำหรับเด็ก และ 200 ซีซี ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วเป็นพิเศษ 

สำหรับ สนามโกคาร์ท พัทยา Easykart Pattaya (แหลมบาลีฮาย) เป็นสนามโกคาร์กลางแจ้ง ที่มีความยาวของแทรคเริ่มต้น 350 เมตร และแทรคสำหรับแข่งยาว 800 เมตร อีกทั้งยังเป็นสนามที่มีความปลอดภัยสูง มีสิ่งอำนวยความสะดวก และที่สำคัญยังเหมาะการทำกิจครอบครัวเนื่องจากสนามแห่งนี้มีทั้ง แทรค 2 แทรคใหญ่, ระบบจับเวลาไฮเทค, ไฟกลางคืน, ร้านอาหาร, บาร์, โต๊ะพูล และ ระเบียงกว้าง ดังนั้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้ขับโกคาร์ทคุณก็จะไม่รู้สึกเบื่อแต่อย่างใด

สุดท้ายคือ Easykart Koh Samui (พรุเฉวง) นอกจากจะเป็นสนามโกคาร์ทกลางแจ้งที่ได้รับมาตรฐานแล้ว สนามแห่งนี้ยังนับว่าเป็นศูนย์รวมกิจกรรม Outdoor 3 กิจกรรมที่ดีที่สุด และใหม่ที่สุดในเกาะสมุย ซึ่งนอกจากจะมีสนามโกคาร์ทให้เลือกเล่นถึง 2 สนาม ได้แก่ สนามสำหรับเด็ก (มีรถ 2 ที่นั่ง) และ สนามสำหรับผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังมีรถให้เลือกใช้ถึง 4 รุ่นเลยทีเดียว นอกจากนี้ Easykart Koh Samui ยังมีอุโมงค์ลมจำลองที่เดียวในประเทศไทย (EasyFly) และ เครื่องเล่นจำลองการโต้คลื่น (Easysurf – FlowRiding) ให้เพื่อน ๆ สามารถเลือกเล่นแบบจุใจ ดังนั้นใครที่ไปเยือน Easykart Koh Samui คุณต้องไม่พลาดความมันอย่างแน่นอน

เวลาให้บริการของสนามโกคาร์ทแต่ละสาขาของ Easykart.net

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ความมัน หรืออยากทำกิจกรรมสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ และครอบครัว ด้วยการแข่งขันโกคาร์ทที่ สนามโกคาร์ท Easykart.net โดยเวลาการให้บริการ และราคาของสนามแต่ละสามขามีดังนี้

• EasyKart เปิดให้บริการทุกวัน 

จันทร์ – วันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 13:00 – 21:00 น.  

และวันศุกร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13:00 – 23:00 น.

• Easykart Pattaya เปิดให้บริการทุกวัน 

จันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 01:00 น.

• Easykart Koh Samui เปิดให้บริการทุกวัน

จันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 21:00 น. 

EasySurf เปิดให้บริการ 10:00, 11:00, 12:00, 13:00, 14:00, 15:00, 16:00 และ 17:00 น.

โดยคุณสามารถจอง หรือ ซื้อแพ็กเกจเพื่อเข้าใช้บริการได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ Easykart.net โดย ราคา แพ็กเกจเริ่มต้นอยู่ที่ 449 บาท ลดจาก 500 บาท ซึ่ง สนามโกคาร์ท พัทยา ราคา ก็อยู่ในเกณฑ์เดียวกันนี้ สำหรับ EasySurf ราคาเริ่มต้นที่ 950บาท (ปัจจุบันไม่พร้อมให้บริการ) แต่สำหรับ EasyFly ช่วงนี้ปิดการจองชั่วคราว

อ่านบทความอื่น ๆ >> Eletre Hyper SUV รถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก Lotus

สนับสนุนโดย : https://hilospec.com/ ไฮโลไทย ฝาก-ถอน ไม่มีขั้นต่ำ แทงไฮโลพื้นบ้าน เบทเริ่มต้น 5 บาท

Eletre Hyper SUV รถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก Lotus

Lotus นับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์จากประเทศอังกฤษที่เน้นการผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงและรถแข่ง และล่าสุดกับการเปิดตัว Eletre Hyper SUV ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่มีสมรรถนะสูง ที่คงความเป็น Lotus ไว้อย่างเต็มเปี่ยมแม้ว่ารถยนต์รุ่นนี้จะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าก็ตาม

สเปคของ Eletre Hyper SUV รถยนต์ไฟฟ้าขุมพลัง 905 แรงม้า

Eletre Hyper SUVหรือLotus EletreHyper-SUVคือรถSUV ไฟฟ้าที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่หรูหราและแปลกใหม่พร้อมแอโรไดนามิก โดยรุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังแรงบิดสูงผ่านล้อทั้งสี่ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 905 แรงม้า (675 กิโลวัตต์) Top Speed ที่ 260 กม./ชม. และมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 2.95 วินาที และด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนามาเป็นอย่างดี จึงทำให้คุณสามารถชาร์จแบบ Ultra-High-speed ด้วยเวลาเพียง 20 นาทีแต่สามารถชาร์จพลังงานให้วิ่งได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร (250 ไมล์) จากระยะทางสูงสุด 600 กิโลเมตร (373 ไมล์) โดยสามารถชาร์จที่บ้านหรือระหว่างเดินทางด้วยระบบ AC 22kW และ DC 350kW 

นอกจากนี้สำหรับดีไซน์ภายในของ Lotus Electre รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอกลางแบบ High Definition OLED ขนาด 15.1 นิ้ว ที่ทำงานควบคู่กับจอแสดงผลดิจิทัลสำหรับผู้โดยสาร ที่มาพร้อมระบบนำทาง และระบบควบคุมรถยนต์ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย และเพื่อความรู้สึกกว้างขวางของห้องโดยสารด้วย Intelligent Glass Roof ซึ่งเป็นหลังคาอัจฉริยะที่คุณสามารถค่ากันรับแสงจากภายนอกได้ด้วยตัวเอง และที่สำคัญ SUV ไฟฟ้า จาก Lotus รุ่นนี้ยังมาพร้อมลำโพงคุณภาพดีจาก KEF ซึ่งเป็นลำโพง 2160W จำนวน 23 ตัว ที่สำคัญยังเป็นลำโพงที่ทาง KEF ออกแบบมาเพื่อรถยนต์สุดพิเศษรุ่นนี้โดยเฉพาะ

ราคาอย่างไม่เป็นทางการของ Lotus รถไฟฟ้า 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของEletre Hyper SUV คาดว่า ทาง Lotus Car จะวางจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ภายในปี 2023 ที่จะถึงนี้ และคาดว่า ราคา เริ่มต้นน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 100,000 ปอนด์ นอกจากนี้ยังจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ Electre, Electre S และ Electre R โดย Electre จะมีให้เลือกเพียง 2 สี ได้แก่ Kaimu Grey และ Stellar Black ส่วนรุ่น S และ R จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 สีได้แก่ Kaimu Grey, Stellar Black, Solar Yellow, Natron Red, Galloway Green และ Blossom Grey 

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการที่นั่ง 4 หรือ 5 ที่นั่ง โดยหากเป็นแบบ 5 ที่นั่งก็จะถูกยกเอาคอนโซลด้านหลังออกและเปลี่ยนเป็นที่นั่งสำหรับผู้โดยสารอีกหนึ่งท่านเข้ามาแทน และที่สำคัญคุณยังสามารถเข้าไปลองดีไซน์และทำการจองรถของคุณก่อนใครบนเว็บไซต์ https://www.lotuscars.com/en-TH/ ได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ >> Harley-Davidson Ultra Limited 2022 รถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งรุ่นใหม่

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/ บริการเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีทั้ง คาสิโนออนไลน์ และการพนันออนไลน์ อื่นๆไว้คอยให้บริการท่านอย่างไม่ติดขัด 

Harley-Davidson Ultra Limited 2022 รถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งรุ่นใหม่

Harley-Davidson นับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นที่รู้จักและมีตำนานมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญรถจาก Harley ยังนับว่าเป็นรถอีกแบรนด์หนึ่งที่มีลายเซ็นของแบรนด์ที่ค่อนข้างเด่นและเป็นเอกลักษณ์ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ซีซีสูงระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจ และล่าสุดกับการเปิดตัว Harley-Davidson Ultra Limited 2022 ซึ่งเป็นรถสไตล์ทัวร์ริ่งที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ Harley ให้คุณสามารถเดินทางไปกับคนรู้ใจของคุณได้แบบสบาย ๆ 

สเปคของ Harley-Davidson Ultra Limited 2022 รถทัวร์ริ่ง 1,868 ซีซี

Harley-Davidson Ultra Limited 2022หรือ Grand American TouringUltraLimited2022 เป็นรถที่มีขนาดความยาว 2,600 มม. ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 22.7 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ Twin-Cooled Milwaukee-Eight 114 ระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) 1,868 ซีซี แรงบิดเครื่องยนต์ 164 Nm ที่ 3,000 รอบต่อนาที กำลังแรงม้าสูงสุด 87 แรงม้า / 65 kW ที่ 5020 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.3 ลิตร/100 กม. เท่านั้น

นอกจากนี้สำหรับ Harley-Davidson 2022 รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับการขับเคลื่อนล้อหลังด้วยอัตราทดของโซ่ 34/46 เกียร์ 6 จังหวะ แฮนด์จับแบบทำความร้อนได้ มาตรวัดที่ถูกออกแบบมาให้มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์โดยจะแยกออกเป็นมาตรวัด 4 จอแสดงผล ได้แก่ จอแสดงผลจะแสดงมาตรวัดระยะทาง, มาตรวัดบันทึกระยะทาง A, มาตรวัดบันทึกระยะทาง B และ ระยะทางที่ขับขี่ได้ก่อนน้ำมันเชื้อเพลิงหมด อีกทั้งยังมีไฟแสดงสถานะเกียร์ที่ใช้งานอยู่ และไฟบอกสถานะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

มีหน้าจอแสดงผลขนาด 165 มม. ลำโพงมาตรฐานขนาด 5.25 นิ้ว จำนวน 4 ตัว รองรับการ์ด SD, แฟลชไดรฟ์ และ MP3 ผ่านการเชื่อมต่อของช่อง USB และมีระบบอินโฟเทนเมนต์อื่น ๆ ที่จำเป็นในการใช้งานอีกมากมาย และที่สำคัญ Grand American Touring รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่อีกมากมาย เช่นระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS), ระบบเบรกที่เชื่อมโยงแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ELB), ระบบควบคุมการทรงตัวเมื่ออยู่บนทางลาดชัน (HHC) และ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง (C-ABS) เป็นต้น 

Harley-Davidson ultra-limited ราคา เริ่มต้นเพียง 1,619,000 บาท

สำหรับราคาของHarley-Davidson Ultra Limited 2022 จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามสีของตัวรถ โดย Grand American Touring Ultra Limited สี Vivid Black ราคาเริ่มต้นที่ 1,619,000 บาท, สี Gauntlet Gray Metallic เพิ่มอีก 6,000 บาท, Midnight Crimson/Vivid Black เพิ่มอีก 22,000 บาท, Reef Blue/Vivid Black เพิ่มอีก 22,000 บาท และ Apex เพิ่มอีก 32,000 บาท ซึ่งสีคัสตอม Apex เป็นสีพิเศษที่ถูกนำมาใช้ในการเฉลิมฉลองให้กับตำนานแห่งชัยชนะของHarley-Davidson ด้วยตัวเลือกสีและกราฟิกที่มีให้สำหรับรุ่น Grand American Touring ปี2022 บางรุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ทุกสีที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นจะเป็นแบบ Chrome Finish นอกจากนี้ยังมี SURCHARGE เพิ่มอีก 30,000 บาท

อ่านบทความอื่น ๆ >> Asphalt 8: Airborne ที่เล่นฟรีแล้วบน PC และมือถือ

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/ บริการเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีทั้ง คาสิโนออนไลน์ และการพนันออนไลน์ อื่นๆไว้คอยให้บริการท่านอย่างไม่ติดขัด 

Asphalt 8: Airborneเกมแข่งรถในตระกูล Asphalt ที่เล่นฟรีแล้วบน PC และมือถือ

Asphalt 8: Airborne คือหนึ่งในเกมแข่งรถของตระกูลAsphalt ที่พัฒนาโดย Gameloft ซึ่งเป็นซีรีส์เกมแข่งรถชื่อดังที่ปล่อยเกมออกมาหลายภาคแล้วด้วยกัน ซึ่งเกมภาคล่าสุดมีชื่อเกมว่าAsphalt 9: Legends ซึ่งจะเป็นตัวเกมที่เปิดให้เล่นฟรีบนเครื่องเกม Xbox ด้วย แต่สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเกมAsphalt ซึ่งเป็นภาคเกมที่เปิดให้เล่นฟรีได้ทั้งบนมือถือ และ เครื่อง PC โดยตัวเกมในภาค 8 นี้จะมีความน่าสนใจและน่าเล่นขนาดไหน เราจะมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน

รีวิว Asphalt 8: Airborne เกมฟรีที่มีรถแข่งให้เลือกเล่นมากกว่า 300 คัน

Asphalt 8: Airborneเป็นเกมที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 หรือราว ๆ 9 ปีที่แล้ว ซึ่งเรียกว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างเก่าแล้วพอสมควร แต่ด้วยความน่าสนใจของเกมนี้จึงทำให้เราอยากหยิบยกเอาAsphalt8airborne onlineเกมนี้มารีวิวให้กับทุกคนได้ทำความรู้จักกัน

โดย เกมส์รถแข่ง เกมนี้เป็นเกมฟรีที่มีรถแข่งลิขสิทธิ์ให้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นมากกว่า 300 คัน ซึ่งเป็นรถแข่งทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์จากแบรนด์ชั้นนำเช่น McLaren, Ferrari, Lamborghini, Mercedes – Benz และอื่น ๆ อีกมากมาย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ยังมีสนามที่มีความท้าทายให้คุณได้ลุยในเกมอีก 50 สนามด้วยกัน โดยเกมนี้จะเป็นเกมแนวอาร์เคดที่จะอิงตามกฎฟิสิกส์แบบครบถ้วน นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ที่ให้คุณสามารถเล่นสามารถร่วมแข่งกับเพื่อน ๆ ได้สูงสุดถึง 12 คนเลยทีเดียว และที่สำคัญ Car game PC เกมนี้ยังมีอีเว้นท์มากกว่า 400 อีเว้นท์ และชาเลนจ์นับพันรายการให้คุณเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อลุ้นรับของรางวัลใหญ่แบบจุใจ 

รองรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ให้คุณได้มันเกินขีดจำกัด

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าAsphalt 8: Airborne เป็นเกมที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งบนเครื่อง PC และ มือถือระบบ iOS และ Android โดยระบบปฏิบัติการของเครื่อง PC ที่รองรับเกมนี้คือ Windows 10 รุ่น 10240 0 หรือสูงกว่า นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่นที่รองรับเกมนี้เช่น MacOS, Apple TV, HoloLens และ Surface Hub (Microsoft Surface Hub) เป็นต้น แต่สำหรับใครที่มีเครื่องเกม Xbox ก็อาจจะต้อง โหลดเกมรถAsphalt9: Legends มาเล่นแทนเนื่องจาก เกมรถ ภาค8 นี้ถูกถอดออกจากเครื่องเกม Xbox ไปแล้ว ดังนั้นหากใครที่อยากลองเล่นเกมนี้ก็สามารถดาวน์โหลดเกมบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่รองรับในข้างต้นได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ >> KartKraft เกมแข่งรถโกคาร์ท ที่ชาวเกม PC ไม่ควรพลาด!

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เพื่อสมัครเล่นเกมส์ได้เงิน และเป็นสมาชิกกับเราโปรโมชั่นปี 2022

เปิดตัวรถยนต์ 6 รุ่น ฉลอง 60 ปี Toyota

ปี 2022 นี้ นับว่าเป็นปีที่ 60 ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ซึ่งปีทองปีนี้ทาง Toyota ก็ได้มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษของมาเพื่อฉลอง 60 ปี Toyota ทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน และแต่ละรุ่นจะมีความพิเศษอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะไปดูพร้อม ๆ กันเลย

รถยนต์รุ่น 60 ปี Toyota พร้อมโปรโมชั่นเพียบ

สำหรับรถยนต์ที่เปิดตัวมาเพื่อฉลอง60 ปี Toyota มีทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทุกรุ่นจะมีเหมือนกันคือ “สี” โดยจะมาพร้อมกันสีขาวมุข หลังคาดำ (Platinum White Pearl / Black Roof) พร้อมสัญลักษณ์60 ปี ซึ่งรถยนต์รุ่นพิเศษทั้ง 6 ได้แก่ Yaris, Corolla Altis, Corolla Cross, CAMRY, Hilux Revo (3 รุ่นย่อย) และ Fortuner และหากการฉลอง60ปีมีเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์สีพิเศษเพียงเท่านี้ ก็อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับToyota 

ดังนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงได้จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ สำหรับคนที่เป็นเจ้าของรถยนต์รุ่น 60th Anniversary ออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น สำหรับคนที่เป็นเจ้าของรถรุ่นฉลอง 60 ปี 6,000 คันแรก คุณจะได้รับข้อเสนอที่มากกว่าใคร โดยสิ่งแรกที่คุณจะได้รับคือ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.10% จากธนาคารที่ร่วมโปรโมชั่น, รับ Exclusive Boxset ที่จะมาพร้อมกับ Apple AirTag ให้คุณนำไปห้อยกับกุญแจรถของคุณแบบเก๋ ๆ ได้เลย, สะสมคะแนน Alive-X ผ่านแอปพลิเคชัน T-Connect และพิเศษสุดคือ ลุ้นรับรางวัลใหญ่ GR86 มูลค่า 2,949,000 บาท โดยโปรโมชั่นนี้จัดยาวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 – 31 มกราคม 2566 เลยทีเดียว

ราคาของรถแต่ละรุ่นแตกต่างจากรุ่นปกติเล็กน้อย

สำหรับราคาของรถยนต์รุ่นพิเศษฉลอง60 ปี Toyota แม้ว่าจะมีทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน แต่สำหรับ Toyota Revo 60ปี จะมีรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Hilux Revo Z Edition 60th Anniversary ราคา720,000 บาท, Hilux Revo Prerunner & 4×4 60th Anniversary ราคา 824,000 บาท และ Hilux Revo Rocco 60th Anniversary ราคา 991,000 บาท ซึ่งรถทั้ง 3 รุ่นย่อยจะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นปกติที่ประมาณ หลักหมื่นบาท 

นอกจากนี้สำหรับรถรุ่นอื่น ๆ จะมีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น โดยแต่ระรุ่นมีราคาเริ่มต้นดังนี้ 

• Toyota Yaris 60ปี ราคา 709,000 บาท
• Corolla Altis 60ปี ราคา 1,019,000 บาท
• Corolla Cross 60ปี ราคา 1,224,000 บาท
• Toyota Camry 60ปี ราคา 1,624,000 บาท
• และ Fortuner 60th Anniversary ราคา 1,889,000 บาท

ดังนั้นสำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นสุดพิเศษแบบนี้ ก็สามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรถแต่ละรุ่น รวมไปถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่โชว์รูมรถ Toyota ใกล้บ้านของคุณได้เลย นอกจากนี้หากใครที่ไม่อยากพลาดการเป็น 6,000 แรก ที่จะได้ลุ้นเป็นเจ้าของรถสปอร์ตสุดหรูอย่าง GR86 รถยนต์รุ่นพิเศษที่ทาง Toyota ร่วมพัฒนากับ Subaru ก็ต้องรีบกันแล้ว 

อ่านบทความอื่น ๆ >> Subaru BRZ รถสปอร์ตคูเป้ 2022 ที่คนรัก Subaru ต้องหลงรัก

สนับสนุนโดย : 

https://sa-game.bet/เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเย เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด กับยอดฝากขั้นต่ำเพียง 1 บาท บริการคาสิโนออนไลน์ที่ลงตัวที่สุดรอท่านให้ได้สัมผัสก่อนใคร

Subaru BRZ รถสปอร์ตคูเป้ 2022 ที่คนรัก Subaru ต้องหลงรัก

Subaru BRZ รถสปอร์ตคูเป้ที่เปิดตัวรุ่นแรกมาตั้งแต่ปี 2012 มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า และล่าสุดกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Subaru BRZ 2022 ที่ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Subaru BRZ แต่มีการอัปเกรดทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ และระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทั้งการขับขี่ และความปลอดภัยระหว่างการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญการกลับมาในครั้งนี้ของ BRZ ยังมาพร้อมกับสีใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย

(https://www.motortrend.com/news/2022-subaru-brz-sports-car-pros-cons-review/) 

สเปคของ Subaru BRZ 237 แรงม้า ปี 2022

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า Subaru BRZ เป็น รถสปอร์ต ที่เปิดตัวในครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2012 หรือราว ๆ 10 ปีที่แล้ว และครั้งนี้เขากลับมาอีกครั้งกับ Subaru BRZ 2022 ซึ่งเปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันได้แก่ BRZ 2.4 6MT และ BRZ 2.4 EyeSight 6AT โดย All-New Subaru BRZ รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน Boxer 2.4 ลิตร (2,387 cc.) ที่ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 237 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 3,700 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหลัง 

(https://www.autodeft.com/defthint/2022-subaru-brz-new-gen-sport-coupe-launched-official-japan) 

โดยรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะจะมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 226 กม./ชม. และสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะจะมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 216 กม./ชม. นอกจากนี้สำหรับ BRZ 2.4 EyeSight 6AT เป็นรุ่นที่มาพร้อมระบบความปลอดภัย Eyesight ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Subaru เช่น ระบบ Blind Spot Warning, SVRD, Pre-Collision Braking หรือ Pre-Collision Throttle Management เป็นต้น ซึ่งระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เหล่านี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูงในการขับขี่

(https://autostation.com/) 

นอกจากนี้สำหรับอุปกรณ์ภายใน และการตกแต่ง ซึ่งต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้รุ่นนี้ตกแต่งภายในให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสปอร์ต ด้วยสีดำตัดกับสีแดงของการเดินตะเข็บ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Subaru BRZ นอกจากนี้ในส่วนของเบาะทำมาจากกํามะหยี่ และหนัง ที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย ห่อตัวดี ดังนั้นจึงทำให้การขับรถระยะไกลไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป และในส่วนของชุดมาตรวัด ยังเป็นแบบหน้าจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Subaru หน้าจอกลางแบบ Capacitive ขนาด 8 นิ้ว ช่องจ่ายไฟ 12 V นอกจากนี้ยังมาพร้อมสีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ WR Blue Pearl, Sapphire Blue Pearl (สีใหม่), Ignition Red (สีใหม่), Crystal White Pearl, Ice Silver Metallic, Magnetite Grey Metallic และ Crystal Black Mica ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ Subaru BRZ และความสปอร์ตเต็มขั้น

(https://www.autospinn.com/2021/07/subaru-brz-2022-83651) 

Subaru BRZ ราคา อย่างเป็นทางการในไทย

สำหรับ Subaru BRZ เปิดให้คุณได้เป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการแล้ว โดย Subaru BRZ 2022 ราคา อย่างเป็นทางการในเมืองไทยสำหรับรุ่น BRZ 2.4 6MT จะมีราคาอยู่ที่ 2,699,000 บาท และ 2,849,000 บาท สำหรับ BRZ 2.4 EyeSight 6AT นอกจากนี้สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากทำความรู้จักกับรถยนต์สุดเท่อย่าง 2022 All-New Subaru BRZ รุ่นนี้ก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนสนใจรับข้อมูลเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ Subaru ได้เลย หรือเดินทางไปติดต่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงตารางผ่อนที่โชว์รูมใกล้บ้านคุณก็ได้เช่นกัน

ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย รถสปอร์ต พิเศษกว่ารถธรรมดาอย่างไร

Aston Martin DBS Superleggera Coupe รถสปอร์ตที่ทั้งเรียบหรู ดูมีสไตล์

 

 

 

 

 

 

สนับสนุนโดย : 

https://sa-game.bet SA-Game คาสิโนออนไลน์ พร้อมเปิดบริการพนันออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !

จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขัน MotoGP สนามที่ 13 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2022 ที่จัดขึ้น ณ สนาม Red Bull Ring ประเทศออสเตรีย และผู้ที่สามารถขึ้นโพเดียมอันดับ 1 ไปได้คือ Francesco Bagnaia นักแข่ง MotoGP วัย 25 ปี ที่นับว่าเป็นน้องให้ในวงการ MotoGP ที่มีผลงานน่าจับตามองที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ และจากผลงานในสนามล่าสุดนี้ก็ทำให้เราอยากรู้จักเขามากขึ้น และต้องบอกเลยว่าผลงานตลอดการเป็นนักแข่งของเขาไม่ธรรมดา และน่าสนใจสุด ๆ 

Francesco Bagnaia นักแข่ง MotoGP ศิษย์เอกในโครงการ VR46 Riders Academy

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับประวัติของ Francesco Bagnaia (ฟรันเชสโก บัญญายา) นักแข่ง MotoGP ที่มีผลงานน่าจับตามองที่สุดในชั่วโมงนี้ เราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ โครงการ VR46 Riders Academy กันก่อนว่าโครงการนี้คืออะไร แต่หากใครที่เป็นแฟน MotoGP ก็คงจะคุ้นกันคำว่า “VR46” เนื่องจากหมายเลขนี้เป็นหมายเลขประจำตัวของพ่อหมอ หรือ Valentino Rossi อดีตนักแข่ง MotoGP แชมป์โลก 9 สมัย และแน่นอนว่าเขาคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียนผลิตนักบิดแห่งนี้ ซึ่งFrancesco Bagnaia ก็คือหนึ่งในลูกศิษย์จากโครงการนี้เช่นกัน 

 โดย Francesco นับว่าเป็นนักแข่งที่ฉายแววมาตั้งแต่เด็ก โดยรายการแรกที่เขาได้ลงแข่งขันอย่างเป็นทางการคือ European MiniGP Championship ในปี 2009 และหลังจกนั้นไม่นานเขาก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการ Moto3 ซึ่งนับว่าเป็นใบเบิกทางสู่การเป็นนักแข่ง MotoGP อย่างเต็มตัว และถึงแม้ว่าในปี 2019 ซึ่งเป็นปีแรกของการแข่งเขาจะตกไปอยู่อันดับที่ 15 แต่ในปี 2021 ที่ผ่านมาเขาก็สามารถทำฟอร์มออกมาได้ดีจนสามารถคว้าอันดับ 2 มาได้ และในปี 2022 นี้เองเขาก็ทำให้แฟน ๆ ต้องลุ้นตัวโก่งอีกครั้งหลังจากที่ในสนามที่ 13 เขาสามารถขึ้นโพเดียมอันดับ 1 ได้ในที่สุด และสามารถทำอันดับคะแนนได้ดีจนสามารถสะสมคะแนนของ MotoGP 2022 ให้อยู่ในอันดับที่ 3 ได้ในที่สุด

7 สนามการแข่งขัน กับลุ้นสู้การเป็นแชมป์โลกอีก 1 สมัย

ผ่านไปแล้ว 13 สนาม จาก 20 สนามของ การแข่งขัน MotoGP ซึ่งจากการแข่งขันทั้งหมด 13 คะแนน จะเห็นได้ว่าคะแนนของ นักแข่ง MotoGP จากอันดับที่ 1 – 3 จะมีคะแนนที่ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนัก ซึ่ง นักแข่ง MotoGP ของ แต่ละทีมก็นับว่ามีผลงานตลอดการแข่งขันที่ไม่ธรรมดา และเราเชื่อว่าหากใครที่เป็นแฟนของFrancesco Bagnaia ก็ต้องลุ้นการเป็นแชมป์โลกอันดับ 1 ของเขาในปีนี้อย่างแน่นอน เพราะอย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าคะแนนของนักแข่งแต่ละคนนั้นค่อนข้างสูสีกันพอสมควร

ดังนั้นหากอีก 7 สนามที่เหลือ Francesco สามารถทำฟอร์มออกมาได้ดีเหมือนสนามที่ 13 ที่ผ่านมาการที่จะคว้าอันดับ 1 มาได้ก็อาจจะไม่ยากเกินไปนั่นเอง

–อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักแข่ง F1 ลูกครึ่งไทย – อังกฤษ ที่ฝีมือแข่งรถระดับโลก

–สมเกียรติ จันทรา นักแข่ง Moto2 ชาวไทย ที่กำลังเป็นที่จับตามองที่สุดในเวลานี้

สนับสนุนโดย :

สล็อต ฝากถอน TRUE WALLET เว็บตรง