สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

7 แบรนด์ รถไฟฟ้า รุ่นไหนดี ประหยัดพลังงาน ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกการขับขี่

รถไฟฟ้า

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน รถไฟฟ้า อาจเป็นเพียงภาพในจินตนาการและสุดยอดนวัตกรรมต้นแบบ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญรวมถึงนักพัฒนามีความพยายาม เพื่อทำให้มันเป็นรถยนต์ทางเลือกสำหรับใช้กันในชีวิตประจำวัน แทนการใช้รถยนต์ระบบเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันที่เป็นพลังงานสิ้นเปลือง (ใช้แล้วหมดไป)  

แต่ปัจจุบันนี้ทุกคนต่างก็สามารถหาซื้อรถไฟฟ้าประหยัดพลังงานเพื่อนำมาใช้กันบนท้องถนนได้ง่ายมากขึ้น ทั้งยังมีแบรนด์รถยนต์ระดับโลกมากมายที่ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงานออกมาให้ได้ตื่นตาตื่นใจกัน ซึ่งจะมีรถไฟฟ้ารุ่นไหนบ้างที่น่าใช้ ในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมมาให้แล้วถึง 7 แบรนด์เลยทีเดียว ตามมาอ่านกันได้เลย

บทบาทของรถไฟฟ้า สุดยอดนวัตกรรมรักษ์โลกแห่งยุค

รถไฟฟ้าประหยัดพลังงานหรือรถยนต์ EV (Electric Vehicle) ถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปีค.ศ.1881 และเริ่มมีการพัฒนาให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากที่สุดในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก่อนจะปิดตัวลงเพราะรถยนต์ในระบบเชื้อเพลิงได้รับความนิยมมากกว่า

จนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้เอง ที่รถไฟฟ้าได้เริ่มเข้ามามีบทบาทและพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองเห็นข้อดีที่มันสามารถประหยัดพลังงานได้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีราคาแพงมากในปัจจุบัน ลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ทั้งยังลดปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย ดังนั้นมันจึงทำให้แนวโน้มความนิยมต่อการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตมากขึ้นหลายเท่าตัวนั่นเอง

ข้อดีของรถไฟฟ้า

  • รถไฟฟ้าทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หรือมอเตอร์ไฟฟ้า เพราะฉะนั้นจึงลดการปล่อยควัน รวมถึงมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงได้
  • เป็นหนึ่งในวิธีเพื่อช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองของโลก
  • สามารถใช้เพื่อลดการสร้างปัจจัยซึ่งไปกระตุ้นความรุนแรงของภาวะโลกร้อนได้
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน
  • สามารถผลิตพลังงานจากแหล่งพลังงานที่ไร้ข้อจำกัดได้ (เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยโซลาร์เซลล์)

ข้อเสียของรถไฟฟ้า

  • สถานบริการสำหรับชาร์จรถไฟฟ้ายังมีน้อยกว่าปั๊มน้ำมัน
  • มีพลังงานที่จำกัด ดังนั้นถ้าต้องเดินทางไกลจำเป็นต้องมีการวางแผน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือตามชนบท จำเป็นจะต้องมีการชาร์จแบบเอาไว้ให้เพียงต่อเสมอ
  • กรณีที่ต้องการซ่อมบำรุง จำเป็นจะต้องส่งซ่อมกับศูนย์สำหรับพาหนะไฟฟ้าเท่านั้น
  • จำเป็นต้องใช้เวลาในการชาร์จพลังงานยาวนานกว่าการเติมน้ำมัน

รวม 7 แบรนด์รถไฟ้ฟ้ายอดนิยมแห่งยุค

รถไฟฟ้า MG

รถไฟฟ้า MG

แบรนด์รถยนต์แบรนด์แรกของประเทศอังกฤษซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี อย่าง MG หรือ Morris Garages เป็นที่รู้จักในนามของแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตสุดหรู  ซึ่งในภายหลังก็ได้มีการเข้ามาจับตลาดพาหนะไฟฟ้า จนกระทั่งรถไฟฟ้า MG ได้กลายมาเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยเราด้วย

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า MG

  • NEW MG ZS EV ราคาเริ่มต้นประมาณ 949,000 บาท
  • MG ES ราคาเริ่มต้นประมาณ 959,000 บาท
  • MG4 ELECTRIC ราคาเริ่มต้นประมาณ 869,000 บาท
รถไฟฟ้า Tesla

รถไฟฟ้า Tesla

มาต่อกันด้วยรถไฟฟ้า Tesla กันบ้าง ซึ่งบอกก่อนเลยว่ารถยนต์หลากหลายรุ่นจากแบรนด์นี้ขึ้นอยู่ภายใต้การบริหารของนักธุรกิจชื่อดังอย่าง ‘อีลอน มัสก์’ ทั้งยังเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ซึ่งมีมูลค่าการตลาดสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว โดย Tesla ได้มีการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นแรกขึ้นมาในปี 2008 และได้กลายเป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมในกลุ่มคนใช้งานรถประเภทนี้เป็นอย่างมากในเวลาต่อมา

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า Tesla

  • Tesla Model 3 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.59 ล้านบาท
  • Tesla Model S ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.42 ล้านบาท
  • Tesla Model X ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.9 ล้านบาท
รถไฟฟ้า BMW

รถไฟฟ้า BMW

สำหรับแบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติเยอรมันอย่าง BMW นั้น เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ถึงจะมีราคาแพงแต่ก็ยังได้รับความนิยม โดยรถไฟฟ้ารุ่นแรกอย่างรถยนต์รุ่น BMW 1602e ได้ถูกเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงานกีฬาโอลิมปิก ณ ประเทศเยอรมนีเมื่อปี 1972 ก่อนในระยะเวลาหลายสิบปีหลังจากนั้นจะมีการพัฒนาจนได้เกิดเป็นรถไฟฟ้า BMW ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริงอย่างไร้ที่ติขึ้นมามากมาย

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า BMW

  • BMW iX ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.149 ล้านบาท
  • BMW i4 M50 ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.099 ล้านบาท
  • BMW i7 ราคาเริ่มต้นประมาณ 7.949 ล้านบาท
รถไฟฟ้า Ora

รถไฟฟ้า Ora

Ora อีกหนึ่งแบรนด์รถไฟฟ้าน้องใหม่ภายใต้แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนอย่าง Great Wall Motors ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวกันมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อประมาณปี 2018 ในฐานะของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ด้วยแนวความคิดที่ต้องการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันชาญฉลาด ทั้งยังทันสมัยมากที่สุดมาพัฒนารถไฟฟ้า Ora ให้สามารถตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้อย่างเหนือชั้น ทำให้หลายคนอาจเริ่มเห็นรถไฟฟ้าในประเทศไทยจากแบรนด์นี้กันได้มากขึ้นแล้ว

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า Ora

  • Ora Good CAT 400TECH ราคาเริ่มต้นประมาณ 763,000 บาท
  • Ora Good CAT 400PRO ราคาเริ่มต้นประมาณ 828,500 บาท
  • Ora Good CAT 500ULTRA ราคาเริ่มต้นประมาณ 959,000 บาท
รถไฟฟ้า Neta

รถไฟฟ้า Neta

แบรนด์รถไฟฟ้าประหยัดพลังงานจาก Neta เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ Hozon New Energy Automobile ที่ได้มีการบุกตลาดในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว โดยย้อนกลับไปในช่วงแรกแบรนด์ดังกล่าวมีความพยายามที่จะพัฒนาและแก้ไขปัญหาในการใช้งานรถยนต์ EV ซึ่งมีข้อจำกัดมากมาย จนกระทั่งประมาณปี 2018 ก็ได้เกิดเป็นรถไฟฟ้า Neta รุ่นแรกและผลิตออกขายได้สำเร็จ

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า Neta

  • Neta U ราคาเริ่มต้นประมาณ 549,000 บาท
  • Neta X ราคาเริ่มต้นประมาณ 680,000 บาท
  • Neta AYA ราคาเริ่มต้นประมาณ 360,000 บาท
รถไฟฟ้า Volvo

รถไฟฟ้า Volvo

Volvo เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์เก่าแก่ซึ่งมีการก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1927 ที่ประเทศสวีเดน จนกระทั่งปี 1976 ก็ได้มีการผลิตและเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก Volvo ขึ้นมาเป็นครั้งแรก ถึงแม้ความสามารถและสมรรถนะของรถไฟฟ้า Volvo ในตอนนั้นอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบมากนัก แต่มันก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญซึ่งทำให้แบรนด์ดังกล่าวได้กลายมาเป็นผู้นำในอันดับต้นๆ ของผู้ผลิตรถไฟฟ้าชั้นนำของโลก

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า Volvo

  • Volvo EX30 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.5 ล้านบาท
  • Volvo XC40 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.99 ล้านบาท
  • Volvo C40 ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.09 ล้านบาท
รถไฟฟ้า Aion

รถไฟฟ้า Aion

มาปิดท้ายรถไฟฟ้าน่าใช้แบรนด์สุดท้ายกันด้วยแบรนด์รถไฟฟ้า Aion หรือ GAC AION ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อว่า Guangzhou Automotive Group ซึ่งจากข้อมูลสถิติได้มีการระบุเอาไว้ว่ารถไฟฟ้าจากแบรนด์นี้ได้รับความนิยมจากงานรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่าง Motor Expo 2023 เป็นอย่างมาก โดยมียอดการจองมากเป็นอันดับ 2 เมื่อเทียบกับกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดเลยทีเดียว

ตัวอย่างรุ่นและราคาของรถไฟฟ้า Aion

  • AION Y Plus 550 Ultra ราคาเริ่มต้นประมาณ 995,900 บาท
  • AION ES ราคาเริ่มต้นประมาณ 850,000 บาท
  • AION Y Plus 490 Elite ราคาเริ่มต้นประมาณ 899,900 บาท

บทส่งท้าย

ความพยายามในการพัฒนารถไฟฟ้า รวมถึงนำเอาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ แทนการใช้น้ำมันซึ่งเป็นพลังงานสิ้นเปลือง ทั้งยังสร้างมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมีมานานแล้ว โดยได้รับความนิยมอย่างรุ่งโรจน์มากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงที่พลังงานเริ่มลดน้อย น้ำมันแพง และโลกเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากขึ้น โดยแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถเลือกซื้อกันได้ก็มีอยู่มากมายมีตั้งแต่รถไฟฟ้าราคาถูกไล่ไปจนถึงราคาหลักหลายล้านเลยทีเดียว

ขอขอบคุณคลิปจาก Car Raver

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ simstation.in.th

อัพเดทข้อมูล ทำใบขับขี่รถยนต์ 2567 ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง