ถึงแม้ว่าในความคิดของหลายคน อาจจะมองว่าการเปลี่ยนมาใช้ รถไฟฟ้า Neta คงไม่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากเท่ารถยนต์เชื้อเพลิงทั่วไป ทั้งยังมีราคาแพงเข้าถึงได้ยาก แต่ในความเป็นจริงปัจจุบันนี้นวัตกรรมการผลิตรถยนต์ EV ได้มีการพัฒนา ปรับปรุง รวมถึงอุดช่องโหว่ ซึ่งเคยเป็นข้อจำกัดในการขับขี่ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
รวมถึงมีแบรนด์ผู้ผลิตรถไฟฟ้าน่าใช้รายใหม่เกิดขึ้นมามากมาย ทำให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะชอบรถยนต์ที่สมรรถนะแรงๆ ชอบรถดีไซน์เรียบหรู น่ารัก หรือกำลังมองหารถยนต์ที่ใช้งานในประจำวันได้ดีก็มีให้เลือกได้ตามใจชอบ โดย รถไฟฟ้า Neta ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์รถไฟฟ้าราคาถูกที่ทุกคนสามารถเลือกซื้อมาใช้กันได้ในราคาสุดคุ้มด้วยนั่นเอง
ต้นกำเนิดของแบรนด์รถยนต์ Neta
หากใครได้มีโอกาสไปเดินงานที่เกี่ยวกับการโปรโมตหรือจัดแสดงรถไฟฟ้าในประเทศไทย ก็คงจะเคยได้เห็นหน้าคร่าตาเจ้ารถไฟฟ้าจากแบรนด์ Neta กันมาบ้างแล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของแบรนด์ดังกล่าว ก็คงจะต้องย้อนกลับไปช่วงประมาณปี 2014 เพราะมันเป็นช่วงที่แบรนด์น้องใหม่นี้เพิ่งจะก่อนตั้ง และสร้างความฮือฮาให้กับวงการรถไฟฟ้าประหยัดพลังงานได้ไม่น้อยเลย
โดยแบรนด์ Neta นั้นก็เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Hozon New Energy Automobile (Hozon Auto) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ที่ได้รับความร่วมมือจากสถาบัน ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงบริษัทชั้นนำของโลกมากมาย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการสรรค์สร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อทุกคน
ทั้งยังต้องการให้บุคคลทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าที่มีคุณภาพ และมีโอกาสได้สัมผัสกับประสบการณ์ของนวัตกรรมการประหยัดพลังงานสุดทันสมัยกันได้ ในราคาที่บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดกับรถไฟฟ้าราคาถูกซึ่งมาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบโจทย์ได้มากขนาดนี้
ความนิยมของรถไฟฟ้า Neta ในบ้านเรา
รถไฟฟ้าจากแบรนด์ Neta เริ่มเข้ามาทำตลาดรถไฟฟ้าประหยัดพลังงานในบ้านเราเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2022 และภายในระยะเวลาไม่กี่ปีแบรนด์ดังกล่าวก็สามารถครองใจผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราไปได้ไม่ยาก ทำให้ทุกคนจะสามารถเห็นรถไฟฟ้า Neta ตามท้องถนนได้ทั่วไป ด้วยราคาที่จับต้องได้ ช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งยังมีคุณภาพการใช้งานที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีดีไซน์ภายนอกซึ่งสวยงามโดดเด่นไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว
แนะนำรถไฟฟ้า Neta
NETA V
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองเปิดใจกัน ก็คือรถไฟฟ้ารุ่น NETA V ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์รุ่นต้นแบบที่ทำให้แบรนด์สามารถเปิดตลาดรถไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งยังช่วยให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรุ่นต่อๆ มาได้เป็นอย่างดี โดยจุดเด่นที่เป็นข้อได้เปรียบของพาหนะไฟฟ้ารุ่นนี้ก็คือราคาที่ถูกแสนถูก รวมถึงการดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘โลมา’ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความปราดเปรียว
ราคาเปิดตัว : ราคาเริ่มต้นประมาณ 549,000 บาท
สมรรถนะโดยรวม : รถยนต์ EV รุ่นนี้มีพละกำลังในการขับเคลื่อนสูงสุด 95 แรงม้า มาพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะแบบ Smart Key รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ได้ทั้งแบบ DC Charger และ CCS Combo ทำให้สะดวกสบายกับผู้ใช้งาน นอกจากนั้นก็ยังมีระบบกรองอากาศ N95 มาให้เพื่อช่วยกรองอากาศซึ่งเต็มไปด้วยมลพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เป็นรถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างดีเยี่ยม
NETA S
สำหรับรถไฟฟ้า Neta ซึ่งได้มีการออกมาอวดโฉมเป็นครั้งแรกในงานรถยนต์และรถไฟฟ้าในประเทศไทยอย่าง Motor Expo เมื่อปี 2022 นั้น เรียกได้ว่าก็สร้างกระแสการตอบรับได้ดีพอสมควร โดยรถไฟฟ้ารุ่นนี้จะมากับการออกแบบในสไตล์ Sporty Smart Coupe ดังนั้นมันจึงมีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างเท่มากกว่า NETA V
ราคาเปิดตัว : ราคาเริ่มต้นประมาณ 921,000 บาท
สมรรถนะโดยรวม : รถไฟฟ้า Neta รุ่นนี้มาพร้อมพละกำลังในการขับเคลื่อนสูงสุดถึง 462 แรงม้า ความจุแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 91 kWh ในขณะที่สามารถทำระยะทางได้ไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเป็นระยะทางถึง 650 กิโลเมตรเลยทีเดียว
NETA GT
ปิดท้ายกันด้วยรถไฟฟ้าในรุ่น NETA GT ซึ่งจะมีการเปิดตัวภายในปี 2024 เรียกได้ว่าเป็นยานยนต์ไฟฟ้าสุดทันสมัยอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนไม่ควรพลาด เพราะนอกจากรถยนต์รุ่นนี้จะมีการพัฒนาในเรื่องของดีไซน์ให้มีความทันสมัย เท่ ปราดเปรียว และดูมีความเป็น Sport Car มากกว่ารถยนต์รุ่นก่อนๆ แล้ว แน่นอนว่าระบบปฏิการรวมถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งานเองก็ได้มีพัฒนาขึ้นมากด้วยเช่นกัน
ราคาเปิดตัว : ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.1 ล้านบาท
สมรรถนะโดยรวม : รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถขับขี่ได้ไกลมากสุด 660 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง มาพร้อมระบบประมวลผลแบบ Smart Cockpit Platform ซึ่งมีการนำเอาชิปคุณภาพดีอย่าง Qualcomm Snapdragon มาใช้ รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง รวมถึงสามารถควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้ด้วย
ข้อดีและข้อเสียของรถไฟฟ้า Neta
รถไฟฟ้าจากแบรนด์ Neta นั้นมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันออกไปตามรุ่นและราคาที่เลือกซื้อ แต่โดยรวมก็ยังรู้สึกว่าสมรรถนะที่ได้มากับราคาที่จ่ายไปถือว่ามีความสมเหตุสมผลเลยทีเดียว โดยข้อดีหลักๆ ของรถไฟฟ้า Neta นอกเหนือจากเรื่องราคาก็คือรูปทรงที่สวยงาม สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง มีอัตราเร่งที่ทำได้ดีพอสมควร ที่สำคัญห้องโดยสารก็ถือว่ากว้างขวางใช้งานกันในครอบครัวได้แน่นอน ในขณะที่ข้อเสียก็จะเป็นเรื่องความเสถียรต่างๆ นั่นเอง
บทส่งท้าย
สำหรับใครที่กำลังมองหารถไฟฟ้าราคาถูกที่มีฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน รถไฟฟ้า Neta ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นทางเลือกให้กับทุกคนได้เลย เพราะถึงแม้แบรนด์ดังกล่าวอาจจะเพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากสถาบันและบริษัทชั้นนำมากมายด้วยนั่นเอง โดยในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการผลิตรถไฟฟ้าออกมาหลายรุ่นสามารถเลือกซื้อกันตามงบที่มี หรือตามสมรรถนะที่ต้องการได้เลย
ขอขอบคุณคลิปจาก autolifethailand official
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ simstation.in.th
7 แบรนด์ รถไฟฟ้า รุ่นไหนดี ประหยัดพลังงาน ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกการขับขี่