สินค้า simulator

กิจกรรม

การแข่งขัน

แนะนำอุปกรณ์

ทดลองอุปกรณ์

สานฝันการเป็นนักแข่งรถได้ถึงบ้านกับเกม Gran Turismo Sport

Gran Turismo Sport

หลังจากทำหน้าที่เป็นวิดีโอเกมมอบความบันเทิงมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Gran Turismo ซีรี่ย์เกมแข่งรถเหมือนจริงที่สุด ก็ได้ขยับตนเองให้ก้าวเข้ามาสู่วงการ e-sport ได้อย่างเต็มตัวเสียที ผ่านการนำเสนอระบบการเล่นที่มีลายละเอียดขึ้น ประกอบการงานภาพที่ได้รับการพัฒนาให้รันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยมีมา ชนิดเห็นแล้วยังแทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้าเครื่อง PS4 จะยังคงสามารถประมวลผลภาพออกมาได้ดีถึงขนาดนี้ 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกมแข่งรถเหมือนจริงภาคใหม่อย่าง Gran Turismo 7 ยังไม่มีประกาศการระบุวันวางจำหน่ายที่แน่นอน ประกอบกับการเผยว่าตัวเกมจะลงให้เฉพาะเครื่อง PS5 เท่านั้น ทำให้เหล่าผู้ครอบครอง PS4 คงเหลือทางเลือกแค่การเก็บเงินซื้อคอนโซลใหม่เท่านั้น แต่สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนเครื่อง ( กระเป๋าเงินแห้งอยู่ ) Gran Turismo Sport ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยังคบหากันอยู่ได้อีกนานแน่นอน 

Gran Turismo Sport

Gran Turismo Sport

แม้จะเป็นภาคที่เปิดตัวต่อจากภาค 6 แต่ทางผู้พัฒนาอย่าง Polyphony Digital กลับเลือกที่จะปัดเลข 7 ออกแล้วเลือกใส่คำว่า ” Sport ” ลงไปแทน เพราะเนื้อหาหรือรูปแบบการเล่นในภาคนี้จะค่อนแตกต่างและพิเศษยิ่งกว่าภาคก่อน ๆ เนื่องจากเป็นภาคที่เน้นออกแบบมาเพื่อรองรับการแข่งขัน e-sport ซึ่งได้รับการรองรับมาตรฐานโดย FIA ( สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ ) ดังนั้นเนื้อหาการเล่นไปจนถึงระบบต่าง ๆ จะเอื้อต่อการสนับสนุนการแข่งขันอย่างจริงจังมากที่สุด 

ส่วนระบบการเล่นต่าง ๆ ยังคงล้วนได้รับการปรับปรุงมามาให้ได้มาตรฐานตามสไตล์ของ Gran Turismo ที่คร่ำหวอดวงการเกมแข่งรถเหมือนจริงมาในทุก ๆ ภาค เพื่อให้ผู้เล่นดึงทักษะการขับขี่และความรู้เรื่องรถนำออกมาใช้ให้มากที่สุด ซึ่งในเรื่องพวกนี้เราคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรให้เสียเวลา เพราะชื่อเสียงด้านนี้ล้วนต่างเป็นที่ยอมรับและทราบดีกันอยู่แล้ว

ส่วนความน่าสนใจของภาคนี้จะแบ่งออกได้เป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ โหมดออนไลน์ กับ โหมดออฟไลน์

Gran Turismo Sport

โหมดออนไลน์

โหมดออนไลน์ คือจุดที่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Gran Turismo Sport กลายเป็นภาคพิเศษแทนที่จะเป็นภาคที่ 7 เพราะสิ่งที่แตกต่างก็คือการเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ตัวเกมจะต้องต่อเน็ตแบบตลอดเวลา มีเพียงโหมด อาเขต เท่านั้น ที่สามารถเล่นได้โดยไม่พึ่งพาอินเทอร์เน็ต ซึ่งถ้าหากไม่มีสัญญาณคุณก็จะไม่สามารถ save ข้อมูลต่าง ๆ ในโหมดออนไลน์ได้เลย

ขณะเดียวกันหากคุณไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ สังคมการแข่งขันบนโลกยานยนต์ในโหมด Sport ก็เป็นอะไรที่เปิดกว้างและรอต้อนรับคุณอยู่ตลอดเวลา เพราะภายในมีผู้เล่นทั่วโลกที่ต่างหาความสนุกกับการวัดระดับรถและทักษะการขับขี่กันอย่างคับคั่ง แถมยังมีการแบ่งคลาสเพื่อจัดกลุ่มผู้เล่นระดับต่าง ๆ ตั้งแต่คลาส E,D,C,B,A รวมไปถึงการแข่งขันแบบ Champion ship ที่มาเป็นตัวการันตีถึงความสามารถที่แท้จริงเฉพาะบุคคลนั้น ๆ อย่างไรก็ตามแม้เกมจะมีความจริงจังแต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาป่วนได้ง่าย ๆ เพราะในเกมมีระบบค่า DR ( Driver Rating ) กับค่า SR ( Sportsmanship Rating ) มาเป็นตัวกำกับ หากผู้เล่นคนไหนชนคู่แข่งในโหมด Sports บ่อย ค่า SR ก็จะถูกหักออกไปทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบพฤติกรรมล่วงหน้าของเพื่อนรวมห้องได้นั่นเอง

แต่ถ้าไม่อยากซีเรียสอะไรมากเกมก็ยังมีโหมด Lobby ที่คุณสามารถสร้างห้องและตั้งกฏกติกาได้ตามใจสำหรับเล่นกับคนรู้จัก หรือถ้าเบื่อ ๆ จะเข้าไป Join กับ Lobby ห้องคนอื่นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

Gran Turismo Sport

โหมดออฟไลน์

แม้ อาเขต จะไม่ได้เชื่อมต่อกับสังคมภายนอก แต่ผู้เล่นก็ยังเพลิดเพลินกับโหมดมากมายที่มีมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น Single Race ( แข่งกับบอท ), Time Trial ( แข่งทำเวลา ) , โหมด Drift โหมดทำภารกิจ และยังมีระบบแบ่งหน้าจอมาไว้เล่นกับเพื่อนได้อีกด้วย ซึ่งหลัก ๆ แล้วโหมดนี้จะเหมาะสำหรับเล่นเก็บเลเวลหรือเล่นเพื่อปลดล็อครถใหม่เป็นหลักมากกว่า 

นอกจากนี้แล้วเกมแข่งรถเหมือนจริงภาคใหม่อย่าง Gran Turismo Sport ยังเป็นเกมที่พยายามนำเสนอเรื่องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการยกระดับงานภาพให้สวยงามมากกว่าเกมไหน ๆ ผ่านการนำเสนอบนโหมดถ่ายภาพที่ทุกแสงเงาล้วนมีการประมวลผลออกมาให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เพื่อที่ผู้เล่นจะสามารถนำรถคันโปรดมาถ่ายกับฉากสถานที่แห่งต่าง ๆ บนโลกที่เกมจัดมาให้ได้ตามต้องการ รวมไปถึงการรองรับ PSVR ที่จะทำให้ทุกการขับขี่ของคุณได้รับอรรถรสแบบเต็มประสิทธิภาพ

 

 

เขียนโดย : นายล้อหมุน